ยอดเซียนหญิงทำนายชะตา - ตอนที่ 1157 นิสัยเปลี่ยนไปมาก / ตอนที่ 1158 หวาดระแวง
ตอนที่ 1157 นิสัยเปลี่ยนไปมาก / ตอนที่ 1158 หวาดระแวง
ตอนที่ 1157 นิสัยเปลี่ยนไปมาก
เซี่ยเฉียวรู้ดีว่าโม่หลิงจื่อคิดอะไรอยู่ในใจ
“สองตำลึงพอที่ไหน แต่อาจารย์ท่านเก็บเงินไม่ได้ ข้าให้เงินท่านไปก็ไม่มีประโยชน์ ทุกครั้งที่ท่านออกไปข้างนอกก็ให้ไปเบิกจากผู้คุมบัญชีมาสองตำลึง ข้าก็ไม่ยุ่งวุ่นวายกับท่าน ท่านจะเอาไปทำอะไรก็ได้ เพียงแต่…จะไปป่าวประกาศกับคนอื่นไม่ได้ว่าข้าเป็นนักพรตที่จับวิญญาณได้” เซี่ยเฉียวมองเขายิ้มๆ “ในฐานะคุณหนูมีชาติตระกูล วิญญาณก็น่ากลัว หากคนอื่นรู้เข้าจะตกใจกลัวได้”
“……” โม่หลิงจื่อเบิกตาโตขึ้นมาทันที “บอกคนอื่นไม่ได้หรือ!”
“ใช่แล้ว” เซี่ยเฉียวพยักหน้าอย่างจริงจัง “ตอนนี้ข้าเป็นทั้งศิษย์น้องโม่ชูเซิงที่เก่งกาจไร้เทียมทาน และยังเป็นเซี่ยเฉียวศิษย์ที่พอจะรู้เรื่องทางเต๋าบ้างเล็กน้อยของท่าน ท่านอย่าได้เอาไปปะปนกัน ข้าไม่ได้เก่งกาจเท่าอาจารย์อานะ”
“……” ในหัวโม่หลิงจื่อวุ่นวายสับสนเล็กน้อย
อย่างนี้ก็หมายความว่า เขาแค่อวดโม้ศิษย์น้องได้ แต่ไม่สามารถโม้เรื่องลูกศิษย์ได้?
แล้วมันจะมีความหมายอะไรเล่า
โม่หลิงจื่อห่อเหี่ยวลงไปเล็กน้อย
“อาจารย์ หากท่านไม่ระวังพูดผิดไป ต่อไปคนทั้งใต้หล้าต่างก็รู้ว่าพระชายารัชทายาทเป็นนักพรตบำเพ็ญเพียรจับวิญญาณ พวกขุนนางหัวโบราณในราชสำนักก็จะยื่นฎีกาฟ้องร้องรัชทายาท บางทีพวกเขาอาจจะบีบบังคับให้รัชทายาทปลดภรรยาก็ได้ แม้แต่ตระกูลเซี่ยเองก็จะถูกผู้คนรังเกียจ ไม่แน่ต่อไปข้าก็อาจจะต้องไปเร่ร่อนตามถนนกับท่านเพื่อดูดวงให้คนอื่น อาจารย์ท่านมักจะล่วงเกินผู้อื่น สุขภาพร่างกายของท่านก็ไม่ดี ถ้าหากท่านถูกทุบตีตอนกำลังดูดวงอยู่นั้น ชีวิตน้อยๆ ของศิษย์…เฮ้อ…” เซี่ยเฉียวพูดจบก็ถอนหายใจเบาๆ และมีท่าทางกังวลใจอย่างมาก
“ช่างรู้จักขู่ข้านักนะ” โม่หลิงจื่อขึงตาใส่นางเล็กน้อย “เมื่อก่อนที่ร่างกายเจ้าไม่ดี เจ้ายังไม่พูดมากเท่านี้เลย”
ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า พูดนั่นโยงนี่ เขาฟังจนเหนื่อยเลย
เซี่ยเฉียวยกยิ้มท่าทางได้ใจ
แม้ว่าคำพูดของอาจารย์อาจทำให้คนอื่นขุ่นเคือง แต่เขาให้ความสำคัญกับเรื่องของนางเสมอ ต่อให้เขาจะเมาแล้ว เขาจะไม่พูดอะไรเหลวไหลออกไป
แน่นอนว่า มันเป็นผลจากการ ‘สั่งสอน’ ของนางตั้งแต่ตอนที่นางยังเป็นเด็ก
นางฉวยโอกาสตอนที่อาจารย์เมาหลอกล่อให้เขาพูดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทุกครั้งที่ทำสำเร็จ เขาจะถูกหักเงินค่าเหล้าจำนวนมาก พอเป็นอย่างนั้นหลายครั้งเข้า เมื่อพูดถึงนาง อาจารย์ก็จะใช้สมองมากขึ้นเล็กน้อย
โม่หลิงจื่อท่าทางผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทางเซี่ยเฉียวมีชีวิตชีวาแล้ว เขาก็มีความสุขขึ้นหน่อย
เขาคิดถูกแล้วที่มาเมืองหลวง
ดูตอนนี้สิ ใบหน้าน้อยๆ นั้นมีสีแดงระเรื่อ ความเร็วในการพูดของนางก็ไม่เปลี่ยนแปลง ฟังดูหนักแน่น อาการไอก็น้อยลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาการเป็นลมหมดสติเลย
โม่หลิงจื่อจึงรู้สึกดีกับครอบครัวเซี่ยหนิวซานและรัชทายาทขึ้นมากโดยไม่รู้ตัว
เขาอารมณ์ดีมีความสุขมาก
……
เดิมทีเซี่ยเฉียวตั้งใจจะไปศาลตัดสินคดีในวันถัดไป แต่นางยังไม่ทันจะได้ไป ชุนเอ๋อร์กลับได้ยินข่าวจากหอส่องชะตาเสียก่อน เซี่ยเฉียวจึงเปลี่ยนเป็นโม่ชูเซิงและรีบรุดไปดู
คนที่มาท่าทางร้อนรนกระวนกระวายใจ เซี่ยเฉียวเองก็ไม่รู้จัก
พออีกฝ่ายเห็นนางแล้วก็สุภาพเกรงใจมาก และมีท่าทางระมัดระวังกิริยา
นางคือฮูหยินท่านหนึ่ง
สีหน้าของฮูหยินท่านนี้ดูหวาดกลัว ท่าทางนางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ข้าได้ยินมาว่าปรมาจารย์มีความสามารถจับวิญญาณพวกตัวประหลาดได้ ท่านคงมีประสบการณ์มามากแล้ว ถ้าหากข้าขอให้ปรมาจารย์ช่วยอะไรสักเรื่อง สิ่งที่ท่านปรมาจารย์เห็นจะ…เป็นที่ล่วงรู้ไปถึงคนอื่นหรือไม่”
“ถ้าหากเจ้าอยากจะปิดบังไว้ ข้าย่อมเก็บความลับให้เจ้าอยู่แล้ว” เซี่ยเฉียวเข้าใจความต้องการของนางทันที
นางเห็นว่าโหงวเฮ้งของคนผู้นี้ไม่ได้มีปัญหาหรือมีเคราะห์ภัยอะไรมาก
แม้แต่วังบิดามารดาหรือลูกๆ ก็ดูปกติธรรมดา
“ตกลง หากปรมาจารย์สามารถรักษาความลับได้ หลังจากเรื่องนี้สำเร็จแล้ว ท่านจะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย” ฮูหยินเอ่ย “ข้ามาหาท่านปรมาจารย์ไม่ใช่เพราะเรื่องของข้าเองหรอก แต่เป็นหลานสาวของข้าที่กำลังจะแต่งงานออกเรือน แต่ช่วงนี้นิสัยนางเปลี่ยนไปมาก…”
ตอนที่ 1158 หวาดระแวง
ฮูหยินดูเหมือนจะกลัวว่ากำแพงมีหู นางจึงพูดออกมาแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“หรือว่าท่านปรมาจารย์ตามข้าไปดูที่บ้านหน่อยจะดีกว่า ตอนนี้หลานสาวของข้าไม่อยู่ แต่อีกไม่กี่ชั่วยามนางก็จะกลับมาแล้ว ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไร ข้าก็จะมาเชิญท่านไปดูหน่อย ถ้าหากมีปัญหา…ก็คงต้องรบกวนท่านแล้ว” ฮูหยินเอ่ย
เซี่ยเฉียวเองก็เข้าใจความคิดของฮูหยินท่านนี้
หญิงสาวกำลังจะแต่งงานอย่างนี้จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปไม่ได้ ถ้าหากบ้านสามีเกิดรับไม่ได้ขึ้นมา ก็คงจะยกเลิกการแต่งงานเท่านั้น
คนผู้นี้หยิบตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงออกมาให้นางไว้ก่อน เห็นได้ชัดว่าครอบครัวของนางมีฐานะร่ำรวย
เซี่ยเฉียวเองก็จับวิญญาณให้ชาวบ้านทั่วไปด้วยราคาที่ไม่สูงนัก แค่ไม่กี่ร้อยอีแปะนางก็เคยคิดมาแล้ว
คนที่มีลักษณะนิสัยให้ตั๋วเงินมาทันทีโดยไม่ถามราคาเช่นนี้ล้วนแต่เป็นตระกูลใหญ่กันทั้งนั้น
เซี่ยเฉียวรับตั๋วเงินไว้และบอกกล่าวกับผู้ดูแลฉัง ก่อนยกตะกร้าไม้ไผ่แล้วออกไปขึ้นรถม้า
นางไม่กลัวว่าจะมีอันตรายใดๆ
แม้ว่านางจะมองเห็นดวงชะตาของตัวเองได้ไม่ชัด แต่ทุกเช้านางยังสามารถทำนายว่าวันนี้จะดีหรือร้ายอย่างง่ายๆ ได้ วันนี้ไม่ใช่วันที่ดีมากก็จริง แต่ก็ไม่มีเคราะห์ใหญ่
คนบ้านนี้ปิดบังเรื่องราวอย่างเข้มงวดมาก รถม้าเลี้ยวไปเลี้ยวมา โยกๆ โยนๆ วนไปมาตามถนนรอบเมืองหลายเส้น หลังจากผ่านไปสองชั่วยาม ร่างเซี่ยเฉียวแทบจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ อยู่แล้วกว่ารถม้าจะหยุดลง
นางมาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่งในที่สุด
คฤหาสน์หลังนี้ค่อนข้างโอ่อ่าอยู่ไม่น้อย มันอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของหนิงเป่ยอ๋องก่อนหน้านี้นัก เห็นได้ชัดว่าคนบ้านนี้ไม่ได้คิดที่จะบิดบังนางหรอก พวกเขาน่าจะป้องกันไม่ให้คนอื่นติดตามมากกว่า
เซี่ยเฉียวลงจากรถม้าแล้วเดินตามนางเข้าไปข้างใน
หลังจากที่พวกนางเข้าไปในคฤหาสน์แล้ว ฮูหยินก็เอ่ยขึ้น “ปรมาจารย์ ข้าไม่ขอปิดบังท่าน เมื่อก่อนอย่างมากหลานสาวของข้าก็แค่เอาแต่ใจตัวเอง นางไม่ได้มีนิสัยดุร้ายโหดเหี้ยม แต่ในช่วงหนึ่งถึงสองเดือนมานี้ จู่ๆ นางนิสัยของนางก็เปลี่ยนไปมาก นางพบเห็นใครก็มักจะโมโหโกรธา หากพูดอะไรไม่เข้าหูนางสักเล็กน้อย นางก็จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา บ่าวรับใช้ในบ้านถูกทุบตีจนตายไปตั้งหลายคนแล้ว มารดาของนางกลัวว่านางจะทำเรื่องใหญ่โต จึงไม่กล้าให้นางพบใครอีก และขังนางไว้ในห้อง แต่ยิ่งขังนางไว้นางก็ยิ่งหวาดระแวง…”
วันแต่งงานใกล้เข้ามาทุกที หากเป็นอย่างนี้ต่อไป พอถึงวันแต่งงาน นางจะต้องสร้างปัญหาขึ้นมาแน่ๆ!” ฮูหยินกังวลร้อนใจมาก
“แล้วนางมีอะไรไม่พอใจว่าที่สามีบ้างหรือไม่” เซี่ยเฉียวเอ่ยถาม
“ไม่น่าจะมีนะ เด็กคนนี้มีอนาคตไม่เลวเลย ในเมืองหลวงนี้เขาก็นับเป็นคุณชายที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ การแต่งงานคราวนี้นางก็เป็นคนตกลงยินยอมเอง นางน่าจะมีความชื่นชอบในตัวคุณชายคนนั้นอยู่แล้ว” ฮูหยินถอนหายใจและปฏิเสธความคิดนี้ของนาง
เซี่ยเฉียวเองก็ยังไม่เห็นนาง จึงยังไม่อาจยืนยันฟันธงได้ว่านางเป็นอะไรกันแน่
ฮูหยินเชิญนางเข้าไปห้องโถงหลัก และดื่มน้ำชาสักพัก หลังจากที่รอไปรอมาได้สักครึ่งชั่วยาม นางจึงได้เห็นคนผู้นั้นในที่สุด
เซี่ยเฉียวได้พบหน้าแล้วก็ต้องตกตะลึงไปทันที
นางเห็นว่าองค์ชายสี่นำตัวคนผู้นั้นเข้ามา
ส่วนหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขา นางสวมหมวกคลุมหน้า เมื่อมองจากที่ไกลๆ เซี่ยเฉียวก็ยังพอมองออกว่านางไม่เต็มใจที่จะมาด้วย
เซี่ยเฉียวเองก็ไม่อาจจะพูดออกไปได้ว่าตนเองรู้จักนาง ก็เลยต้องทำเป็นไม่รู้จักก่อนจะเอ่ยอย่างสงบ “เป็นแม่นางท่านนี้หรือ สามารถที่จะปลดหมวกออกให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่”
องค์ชายสี่พยักหน้าเล็กน้อย
เซี่ยเฉียวจึงสามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหญิงสาวได้
นางก็คือองค์หญิงใหญ่
“ข้าได้ยินมากจากเสด็จพี่ว่าปรมาจารย์โม่ดูโหงวเฮ้งเก่งมาก ข้าเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทดสอบปรมาจารย์ มีเรื่องอะไรก็จะพูดกับท่านตรงๆ” องค์ชายสี่ค่อนข้างตรงไปตรงมา เขาเอ่ยขึ้นทันที “เสด็จพี่หญิงของข้าผิดปกติไปเล็กน้อย รบกวนท่านปรมาจารย์ดูให้หน่อย เรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องปิดบังเสด็จพี่ แต่สำหรับคนอื่นแล้ว คงต้องรบกวนปรมาจารย์เก็บไว้เป็นความลับด้วย”
“ตกลง” เซี่ยเฉียวพยักหน้า
องค์ชายสี่เป็นคนจริงใจ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนนำตัวหญิงสาวมาส่งให้เท่านั้น
เขานั่งลงด้วยท่าทางเรียบร้อยก่อนจะหยิบหนังสือออกมาจากแขนเสื้อ และก้มหน้าก้มตาอ่านโดยไม่ถามอะไรอีก