อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] - ตอนพิเศษ 257 พี่ชาย
ตอนพิเศษ 257 พี่ชาย
ตอนพิเศษ 257 พี่ชาย
เนี่ยนเนี่ยนอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา นางจำได้ว่าไป๋หลิวอี้เคยบอกว่าเด็กคนนี้ชื่อเสี่ยวฮ่วนเหนียง และนางอายุห้าขวบในปีนี้
มันคือโศกนาฏกรรมโดยแท้ ดูเหมือนว่าคนตระกูลถงจะถูกกวาดล้างในเวลาเพียงไม่กี่วัน เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้จิตใจคนแตกสลายได้
นางหาเสื้อคลุมให้ฮ่วนเหนียงใส่ แล้วพาโม่เพียวออกจากประตูหลังจวนซูกั๋วกงเงียบ ๆ
เมื่อผ่านตรอกมืดนอกจวนซูกั๋วกง เนี่ยนเนี่ยนก็เดินไปตามทางที่คุ้นเคย แล้วมาถึงประตูหลังของจวนแห่งหนึ่ง
โม่เพียวก้าวเข้าไปเคาะประตูสองครั้ง จากนั้นหัวคนก็โผล่ออกมาจากข้างในเงียบ ๆ เมื่อเห็นพวกนาง คนผู้นั้นก็ถอยออกไปทันที แล้วต้อนรับพวกนางเข้ามา
“ท่านอารองไป๋อยู่ที่ใด?” เนี่ยนเนี่ยนถาม
“ในห้องเก็บสุราขอรับ”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า แล้วเดินตรงไปตามทางเดินที่ทอดยาวไปยังห้องเก็บสุรา คนรับใช้หยุดหลังจากพาพวกนางไปถึงประตู แล้วเปิดประตูให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าไปเอง
ที่นี่เรียกว่าห้องเก็บสุรา ความจริงแล้วนอกจากถังสุราที่กองอยู่ตรงทางเข้าแล้ว ข้างในก็ว่างเปล่า เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในก็เผยให้เห็นห้องขนาดค่อนข้างกว้าง
ถงเวยหลินนอนอยู่บนเตียง อาการบาดเจ็บของเขาหายดีหลังจากพักฟื้นไม่กี่วัน แม้ว่าร่างกายของเขาจะยังอ่อนแอมาก แต่เขาก็สามารถเดินบนพื้นได้บ้างแล้ว
สาวใช้ที่นั่งดูแลเขาอยู่ข้างเตียงแต่เดิมเป็นคนสนิทของฮูหยินเฒ่าไป๋ เมื่อนางเห็นเนี่ยนเนี่ยนเข้ามาใกล้ นางก็วางชามยาในมือลงทันที หลังจากทำความเคารพเนี่ยนเนี่ยนแล้ว ก็ถอยออกไปข้างนอกด้วยท่าทางนอบน้อม
ถงเวยหลินก็หันมาเช่นกัน เมื่อเขาเห็นนาง ริมฝีปากเขาก็กระตุกเบา ๆ แล้วพูดอย่างสุภาพ “ขอโทษที่ต้องรบกวนเจ้า” ด้วยคิดว่านางมาที่นี่เพื่อตรวจอาการ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนี่ยนเนี่ยนมาหาเขาเพื่อสั่งยาและทำแผลให้เขา
ส่วนไป๋อีเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนอยู่ก็อดสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่นางถือไว้ในอ้อมแขน “เจ้านำของดีอะไรมาหรือ?”
พูดจบเขาก็เดินมาแตะดู
จนกระทั่งเขาเห็นใบหน้าของเด็กคนน้อย เขาก็ถอยหลังไปสองก้าวด้วยความตกใจ แล้วมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามีลูกกับไป๋หลิวอี้เร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”
เนี่ยนเนี่ยนไม่อยากจะสนใจเขา นางกลอกตา แล้วพูดเบาๆ ว่า “ต่อให้ข้าจะมีลูก มันก็ไม่สมเหตุสมผลไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
นางก้าวเข้าไปหาเขา พร้อมอุ้มเด็กไปที่ข้างเตียง
ถงเวยหลินก็เห็นเช่นกัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที และกำลังจะลุกขึ้นนั่ง “นี่คือฮ่วนเหนียง”
โม่เพียวขมวดคิ้ว แล้วผลักเขากลับไปนั่งทันที “ท่านอย่าตื่นเต้น ร่างกายของท่านไม่อาจทนต่อการกระทบกระเทือนได้” ถ้าแผลเปิดอีกครั้ง ก็คงต้องรบกวนคุณหนูเช่นนางให้พันผ้าพันแผลให้เขาอีกครั้ง
เนี่ยนเนี่ยนวางเด็กลงบนเตียง แต่ฮ่วนเหนียงเพิ่งตื่นเพราะเสียงตะโกนของไป๋อีเฟิง ก่อนที่นางจะลืมตา คิ้วของนางขมวดมุ่น
หลังจากเห็นชัดเจนว่าเนี่ยนเนี่ยนที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้า นางก็กรีดร้องทันทีและพยายามดิ้นรนเพื่อจะหนี
ข้างหลังนางคือถงเวยหลิน ทันทีที่นางดิ้นรน มันก็กระแทกโดนบาดแผลของถงเวยหลิน เขาคำรามด้วยความเจ็บปวด แล้วล้มลงบนเตียง
ฮ่วนเหนียงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น นางรีบคลานผ่านร่างของเขาไป ก่อนจะย่อตัวลงบนเตียง แล้วปิดตาตะโกนว่า “อย่า อย่าฆ่าคน ไปให้พ้น ไปให้พ้น…”
ไม่เพียงแต่เนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น แม้แต่ไป๋อีเฟิงก็ตกตะลึง เขาชี้ไปที่ฮ่วนเหนียงแล้วกำลังจะถาม “นี่…”
โม่เพียวมือเท้าว่องไว นางรีบก้าวไปช่วยถงเวยหลิน หลังจากมองแวบหนึ่งก็พบว่าบาดแผลยังไม่เปิด นางจึงไม่ได้เอ่ยคำใด
ถงเวยหลินพยายามกลั้นใจ เมื่อเขามองไปที่ฮ่วนเหนียงอีกครั้ง เขาก็เห็นว่าร่างกายของนางสั่นสะท้านไปหมด
เนี่ยนเนี่ยนพูดเสียงเบาว่า “ตอนที่ลู่อวี่ส่งเด็กมา เขาบอกว่านางยังไม่มั่นคงทางจิตใจ แม้แต่ฮูหยินถงนางก็จำไม่ได้ และไม่มีใครสามารถเข้าใกล้นางได้เลย นางกลัวคนแปลกหน้ามาก เขาจึงอยากส่งนางมาให้เจ้า เพื่อดูว่าจะมีวิธีใดอีกหรือไม่ หากนางยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าเกรงว่าอาจจะทนไม่ไหว”
ถงเวยหลินรู้สึกเสียใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจึงก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนความเจ็บปวด แล้วกอดฮ่วนเหนียงไว้ในอ้อมแขน “ฮ่วนเหนียง ข้าเอง พี่ชายของข้า ไม่ต้องกลัว พี่ชายอยู่ที่นี่แล้ว”
ฮ่วนเหนียงเริ่มทุบตีเขาอย่างสิ้นหวัง นางต่อยเตะด้วยกำลังทั้งหมดจนแทบหมดเรี่ยวแรง
ถงเวยหลินแม้จะเจ็บปวด แต่ก็ยังคงกอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ไป๋อีเฟิงเริ่มเป็นกังวล “เอาล่ะ ตอนนี้แยกสองคนนี้ออกจากกันก่อนเถอะ ไม่เช่นนั้นอาการบาดเจ็บจะยิ่งแย่ลง”
โม่เพียวพยักหน้าด้วยความกังวลเช่นกัน
เนี่ยนเนี่ยนไม่ขยับ เพียงแค่เฝ้ามองถงเวยหลินคอยพูดปลอบใจฮ่วนเหนียง มองฮ่วนเหนียงที่เปลี่ยนจากอารมณ์รุนแรง ไปสู่การไร้เรี่ยวแรงขัดขืน มองนางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ก่อนจะเบิกตากว้าง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางได้ยินฮ่วนเหนียงพูดปนสะอื้นด้วยเสียงที่นุ่มนวลแต่ชัดเจนว่า ‘พี่ชาย’
ยินดีที่จำถงเวยหลินได้ ยินดีที่ยังจำเขาได้
ดวงตาของถงเวยหลินเปียกชื้นเล็กน้อย เขายังคงลูบหลังนางพลางกระซิบว่า “ข้าเอง เด็กดี อย่ากลัวเลย มีพี่ชายอยู่เคียงข้างแล้ว จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
มือเล็ก ๆ ของฮ่วนเหนียงกอดคอของเขาแน่น เสียงสะอื้นของนางดังไม่ขาดสาย ราวกับว่าความหวาดกลัวและความวิตกกังวลที่สะสมมาเป็นเวลานานได้ระเบิดออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว
“คนเยอะ…เลือดเยอะ ท่านพี่ แม่นมตายแล้ว น้องฟางก็ตายด้วย ข้ากลัวมาก… ไม่กล้าร้องไห้… แม่นมบอกอย่าส่งเสียงหรือพูดจนกว่าจะเจอท่านพ่อหรือท่านพี่ ห้ามพูด… ท่านพี่ เลือดออกเยอะมาก…”
“ข้ารู้ ข้ารู้” ถงเวยหลินพึมพำ นางกำลังกดทับบาดแผลของเขา แต่เขายังคงกัดฟันแน่น และฝืนยิ้มเพื่อปลอบโยนนาง “ตอนนี้เจ้าได้เจอพี่ชายแล้ว เจ้าส่งเสียงได้ เจ้าพูดได้ ร้องไห้ได้หากต้องการ พี่จะคอยอยู่ข้าง ๆ และจะปกป้องเจ้าเอง”
ฮ่วนเหนียงพยักหน้าอย่างแรง ยังคงเบะปากด้วยความเศร้าโศก แล้วซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของถงเวยหลินอย่างสิ้นหวัง
ในที่สุดเนี่ยนเนี่ยนก็ขมวดคิ้ว จะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ บาดแผลของถงเวยหลินได้เปิดออกแล้วเนื่องจากความวุ่นวายครั้งใหญ่เมื่อครู่นี้ หากยังปล่อยให้ฮ่วนเหนียงกดทับต่อไปเช่นนี้ เลือดจะไหลออกมาแน่นอน และเมื่อฮ่วนเหนียงเห็นเช่นนั้น ในที่สุดอารมณ์ที่เกือบจะมั่นคง ก็จะพังทลายลงอีกครั้ง
นางเม้มปาก เมื่อหันไปเห็นขนมบนโต๊ะ นางก็รีบไปหยิบมายื่นไปตรงหน้าฮ่วนเหนียง แล้วกระซิบว่า “ฮ่วนเหนียงหิวหรือไม่ อยากกินอะไรหรือไม่?”
ฮ่วนเหนียงมองนางอย่างหวาดระแวงทันที แล้วกอดคอของถงเวยหลินแน่น
ถงเวยหลินร้องออกมาเบา ๆ อีกครั้ง แล้วหน้ามาด้วยความยากลำบาก เพื่อรับขนมจากมือของเนี่ยนเนี่ยน “ฮ่วนเหนียงมากินอะไรหน่อยสิ เจ้าดูสิว่าน้ำหนักของเจ้าลดลงมากเลย พี่ชายเห็นแล้วรู้สึกเศร้ามาก”
ฮ่วนเหนียงชะงัก เมื่อมองไปที่จานในมือของพี่ชาย นางก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
จากนั้นก็มองไปที่เนี่ยนเนี่ยนอีกครั้ง และหันไปมองพี่ชายของนางอีกครั้ง เมื่อเห็นรอยยิ้มในดวงตาของถงเวยหลิน ในที่สุดนางก็ยอมปล่อยมือของเขา เพื่อเอื้อมไปหยิบจานของว่าง
ถงเวยหลินยังคงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดเบา ๆ ว่า “รีบกินเถอะ ไม่ต้องห่วง คนในห้องนี้เป็นคนดีทุกคน พวกเขาเป็นสหายของพี่เอง พวกเขาจะไม่ทำร้ายฮ่วนเหนียง”
ฮ่วนเหนียงพยักหน้าอย่างเข้าใจ หลังจากมองถงเวยหลินด้วยความไว้วางใจแล้ว นางก็กินของจานนั้นอย่างรวดเร็ว และกลืนลงไปราวกับว่าหิวโหยมานาน
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องสงบลงแล้วหลังได้เจอพี่ชาย ดีใจจังเลย
ไหหม่า(海馬)