เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 703 โดนอุบาย
ตอนที่ 703 โดนอุบาย
จางอวิ๋นเมิ่งคิดว่าสามีจะตกใจอุทานออกมา แต่เยี่ยนชิงกลับไม่มีท่าทีเช่นนั้น นอกจากเขาจะรับตัวบุตรสาวและหลานชายน้อยไว้ได้อย่างมั่นคงแล้ว ยังคอยมองเด็กน้อยอย่างมีสติ
เมื่อแน่ใจแล้วว่าเด็กน้อยจะไม่ตื่น เขาก็อุ้มทั้งสองขึ้นมาอย่างระมัดระวังและเดินเข้าไปในห้องเบาๆ ราวกับว่าคาดคิดไว้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ดูไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
ทว่าแม้จะตกใจ เทียนตี้ จางอวิ๋นเมิ่งและเยี่ยนจื่อเยี่ยก็ไม่ร้องออกมาแม้แต่น้อย กลัวจะทำให้เด็กน้อยตื่น หากเป็นเช่นนั้น…
เทียนตี้แค่คิดก็ขนหัวลุกไปหมด รู้ว่าไม่มีใครสามารถกล่อมเด็กคนนี้ได้เลยสักคน
โชคดีที่เยี่ยนชิงไม่ได้ทำให้เจ้าตัวน้อยตื่นเลย อย่างน้อยก็วางสองแม่ลูกลงข้างกายต้าซือมิ่งแล้ว
วิ้ง เทียนตี้รีบกางม่านสกัดพวกเขาออกจากครอบครัวนี้ไว้ก่อนจะกล้าเอ่ยปากว่า “ท่านลุง ท่านรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือไม่”
เยี่ยนชิงย่อมไม่รู้ ทว่า…
“ตอนที่กล่อมเสี่ยวเป่า อันที่จริงเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์พยายามฝืนบังคับตนเองอยู่ หางตาของนางแดง” เยี่ยนชิงสังเกตเห็นเรื่องนี้
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่ง่วงนอนหางตาจะแดง นางกลัวว่าจะทำให้เสี่ยวเป่าตกใจ จึงกล่อมเสี่ยวเป่าให้หลับก่อน นางจึงกล้าหลับ”
เมื่อพูดจบ เยี่ยนชิงน้ำตาคลอ เขารู้สึกว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เช่นนี้เหมือนกับภรรยาสุดที่รักของเขาเลย ทำให้เขา…
“อย่าตีตนไปก่อนไข้” จางอวิ๋นเมิ่งที่เห็นว่าสามีจะทนไม่ไหวแล้วรีบปลอบประโลม “ตอนนี้เราเฝ้าสังเกตุการณ์อย่างที่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์บอกก่อน นอกจากนี้ทางฝั่งหยวนสื่อเทียนจุน…”
“หยวนสื่อจะมาโดยไว” เทียนตี้เอ่ย “ท่านลุงท่านป้าและพี่ใหญ่เยี่ยน พวกท่านรอเขาที่นี่ ข้าจะไปจัดการเรื่องที่อาจารย์ฝากไว้”
เทียนตี้ที่มีความกังวลในใจไม่กล้าพูดว่าหยวนสื่อเทียนจุนอาจจะไม่รู้ว่าอาจารย์เป็นอะไรเช่นกัน นอกจากนี้… เทียนตี้คาดว่าหลังจากนี้จะมีปัญหามากมายเกิดขึ้นอีก เกรงว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้น ดังนั้นหลังจากที่เขารับรู้ได้ว่าหยวนสื่อเทียนจุนมาถึงแล้ว เขาก็จากไปทันที
ถ้ำมรณะแดนมืดนิรันดร์
เทียนตี้เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีปัญหามากที่สุด ทว่าเขายังคงติดต่อเซ่าเฮ่า
แต่เห็นได้ชัดว่าเซ่าเฮ่ากำลังจำศีล ไม่ได้ตอบสนองใดๆ
เทียนตี้เองก็ไม่ได้ดึงดัน เขารู้ว่าเซ่าเฮ่าคงกำลังตระหนักถึงประเด็นสำคัญจึงไม่ได้ตอบเขา
แต่เขาเพิ่งจะมาถึงยมโลก เซ่าเฮ่าก็ตอบเขาแล้ว “นายท่านเกิดเรื่องแล้วหรือ”
“เจ้ารู้สึกถึงหรือ” เทียนตี้ตอบทันที
เซ่าเฮ่าเงียบไปครู่หนึ่ง “ตอนนี้นายท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
“หลับไปแล้ว” เทียนตี้อยากจะแสดงความคิดเห็นของตนเอง แต่ก็กลั้นไว้ถามว่า “เจ้าจะกลับสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเมื่อใด”
“ยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก” เซ่าเฮ่าคำนวณ หากภายในหนึ่งวันเขาไม่สามารถตระหนักรู้อะไรได้ก็คงไม่ทำต่อไปแล้ว
ทว่า… เซ่าเฮ่ายังถามว่า “เจ้าวิหคทมิฬเล่า ช่วงนี้เขาแปลกๆ หรือไม่”
“ไม่นะ ยังดูซื่อบื้อเหมือนเดิม ทำไมหรือ” เทียนตี้ไม่ค่อยเข้าใจ แต่สัญชาติญาณเขาบอกว่าที่เซ่าเฮ่าถามเช่นนี้ แสดงว่าหากเจ้าวิหคทมิฬต้องมีสิ่งใดไม่ชอบมาพากล ต้องเกี่ยวข้องกับอาการในยามนี้ของอาจารย์เป็นแน่
ในความเป็นจริงแล้ว เซ่าเฮ่าก็คิดเช่นนี้จริงๆ แต่เขาไม่ได้ส่งโทรจิตตอบเทียนตี้ เพราะว่าเขากังวลว่า ‘กำแพงมีหู ประตูมีช่อง’ นอกจากนี้เขายังไม่มั่นใจในข้อสันนิษฐานของตนเอง
เพียงแต่ว่าการตระหนักรู้เมื่อเร็วๆ นี้ทำให้เขาเชื่อมโยงถึงเบื้องหลังการกลับชาติมาเกิดของเจ้าวิหคทมิฬเกรงว่าจะเป็นปริศนา นอกจากนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เขารู้สึกว่าเจ้าวิหคทมิฬ ‘ตาย’ แปลกๆ อย่างซีซีและเขา พวกเขาก็แต่เกือบตาย เจ้าวิหคทมิฬ ‘ขี้ระแวง’ เช่นนี้ เขาจะตกหลุมพรางจนต้องใช้กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบ กลับชาติมาเกิดได้อย่างไร
แม้วิธีจักจั่นลอกคราบที่เจ้าวิหคทมิฬใช้จะลึกลับ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบมาพากล
ทว่าเมื่อก่อนเขาคิดว่าตนเองคิดมากไปเอง แค่คิดว่าเป็นเพราะนายท่านร่วงหล่นอย่างสมบูรณ์ เขาจึงสิ้นหวังกับชีวิตยิ่งกว่าพวกตน แต่ตอนนี้ เขาไม่คิดเช่นนั้นแล้ว
เพราะว่า… เขาสัมผัสได้จากบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างเทียนอวี่และแอตแลนว่ามีกฎการพังทลายที่แน่นอนบางอย่าง เหมือนกับว่าเบื้องหลังการทำลายล้างเหล่านี้มีผู้บงการอยู่คนหนึ่ง?
และการกระทำก่อนหน้านี้ของนายท่านพวกเขาคือการบีบกฎระเบียบเช่นนี้ ดังนั้นสามมหาจักรวาลจึงหยุดการพังทลายลงได้และกลับสู่ปกติชั่วคราว
แต่ตอนนี้… กฎระเบียบเช่นนี้เหมือนกับว่ากำลังฟื้นตัว มิหนำซ้ำยังกำลังแว้งกัดการควบคุมของนายท่าน ดังนั้นเซ่าเฮ่าจึงถามคำถามเช่นนี้ เพราะว่าเขารู้สึกว่าการแว้งกัดเช่นนี้ต้องทำให้นายท่านของพวกเขาบาดเจ็บแน่นอน อีกทั้งเมื่อสามหมื่นปีก่อน การตายของนายท่านอาจจะตายเพราะถูก ‘จัดการ’ ด้วยวิธีการเช่นนี้
หากเป็นเช่นนี้… เจ้าวิหคทมิฬ วิหคทมิฬที่เลือกเกิดใหม่อาจจะรู้อะไรบางอย่าง กระทั่ง… กำลังปิดบังบางอย่าง
ความคิดเช่นนี้ เซ่าเฮ่ามิได้เอ่ยปาก เพราะว่าเขารู้ว่าบุคคลที่ทำให้เจ้าวิหคทมิฬระมัดระวังตัวเช่นนี้ เกรงว่าจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดามาก เขาสงสัยว่าการส่งโทรจิตให้เทียนตี้ ฝ่ายตรงข้ามก็อาจจะได้ยินเช่นกัน
ทว่าความเงียบของเขากลับ ‘ส่ง’ ข้อมูลมากมายให้เทียนตี้ เทียนตี้จึงส่งโทรจิตว่า “เจ้าวางใจ ข้าจะจับตามอง เจ้าดูแลตนเองให้ดี”
“วางใจเถอะ ข้าจะรีบกลับไป” เซ่าเฮ่าตอบเสร็จก็ลืมตาขึ้น เขาแหงนมองหมู่ดาวดวงเล็กดวงน้อยทางจักรวาลแดนเหนือ
นี่คือโลกเล็กๆ ดวงเดียวที่เหลืออยู่ในโลกของเทียนอวี่ บัดนี้ข้างในไม่มีสิ่งมีชีวิต แต่กฎดั้งเดิมกำลังถือกำเนิด ตราบใดที่สภาพแวดล้อมภายนอกไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อพวกมัน พวกมันก็จะให้กำเนิดสิ่งใหม่ๆ ในไม่ช้าก็เร็ว
นายท่านเคยพูดว่า สรรพสิ่งล้วนมีวิญญาณก่อนจะก่อเกิดปัญญา นางเองก็กำเนิดขึ้นเช่นนี้
เช่นนั้นแล้ว… ก่อนจะให้กำเนิดนายท่าน สวรรค์เก้าชั้นฟ้าเคยให้กำเนิด ‘สิ่งมีชีวิต’ อื่นใดก่อนหรือไม่
ตามความรู้สึกของนายท่านแล้วไม่มี ถึงอย่างไรสภาพก่อนหน้านี้ของสวรรค์เก้าชั้นฟ้า นายท่านไม่สามารถกำเนิดสิ่งมีชีวิตใดๆ ได้ เฉกเช่นโลกใบน้อยของเทียนอวี่เหล่านี้ในยามนี้ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตกำเนิดเช่นกัน
แต่ว่า… ก่อนที่โลกเทียนอวี่ยังไม่ถูกทำลายกลับไปสู่สภาพดั้งเดิม ย่อมดำรงอยู่ด้วยสรรพสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่
ทว่าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยโลกไม่สำเร็จจึงสิ้นใจไป
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าหากในโลกใบหนึ่งมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่ เช่นนั้นโลกใบนี้ไม่มีทางถูกทำลายจนกลับสู่สภาพดั้งเดิมได้ เพราะว่าผู้ยิ่งใหญ่ต้องช่วยกอบกู้โลก ถึงอย่างไร… หากไม่กอบกู้โลก ผู้ยิ่งใหญ่ใดๆ ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
ความสัมพันธ์แบบวิภาษวิธีนี้เป็นกงเกวียนกำเกวียน วนซ้ำไม่สิ้นสุด
ดังนั้น… ตามหลักแล้ว สวรรค์เก้าชั้นฟ้าก่อนที่นายท่านจะมา แม้จะเคยกำเนิดสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดา แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้
“แต่หากไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดเร็วกว่าและเก่าแก่ยิ่งกว่านายท่านปรากฏ เช่นนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตใดที่มีสิทธิ์เป็นศัตรูกับนายท่านได้ในเวลานี้” เซ่าเฮ่าครุ่นคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ ในหัวก็ปรากฏใบหน้าสง่างามดวงหนึ่ง…. จวินโฮ่ว?