เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2327 เปลี่ยนใจแล้ว / ตอนที่ 2328 ปัญหา
ตอนที่ 2327 เปลี่ยนใจแล้ว
เมื่อได้ฟัง ชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังมุมปากกระตุก อดหันหน้าไปทางอื่นไม่ได้
นายเจ้าก็ซื่อตรงเกินไปแล้ว เหตุใดจึงบอกคนอื่นเขาออกไปตรงๆ ว่ามาหยั่งเชิง
“แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว”
นายเจ้าเซียวเหยาว่า ก่อนจะดื่มอีกหนึ่งอึก มองเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “เจ้าต้อนรับด้วยสุราอาหารชั้นดี เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ข้าอยู่ที่นี่เลยแล้วกัน ข้าไม่กลับแล้ว คนในเมืองของข้าเจ้าเลือกเองได้เลย ถูกใจใครก็เลือก ไม่ถูกใจก็ไล่ออกไป เป็นอย่างไร”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว “จริงหรือ”
“หรือเจ้าคิดว่าข้าล้อเล่นกับเจ้า ต้องจริงอยู่แล้ว ว่าอย่างไรเล่า” เขาคีบอาหารกิน ไม่สนใจชายชราข้างหลังที่เอาแต่ดึงเสื้อเขาไม่หยุด
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ รินสุราอีกหนึ่งแก้ว เอ่ยว่า “เจ้ารู้หรือไม่ จะอยู่กับข้าที่นี่ต้องมีเงื่อนไขอะไร”
“ยังมีเงื่อนไขอะไรได้อีก ก็ยอมรับเจ้าเป็นนายเจ้าไม่ใช่หรือ ถึงแม้พวกเราสองคนจะเป็นผู้ฝึกตนระดับผู้อาวุโสเซียนเหมือนกัน แต่พลังห่างชั้นกันมาก แต่ข้างในนี้ก็เป็นเช่นนี้ พลังแข็งแกร่งแล้วอย่างไรเล่า ทำไมจะยอมรับเจ้าเป็นนายไม่ได้ แต่เงื่อนไขก็คือ ต้องมีเหล้าให้ดื่มมากพอ”
เขาเอ่ยไปพลาง ดื่มสุราไปพลาง รู้สึกว่าชายชราข้างหลังยังไม่ยอมหยุดดึงเสื้อเขา จู่ๆ ก็วางไหสุราลง หันไปเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “มีอะไรก็พูด ดึงเสื้อข้าทำไม”
ชายชราถูกตำหนิเช่นนี้ ใบหน้าร้อนผ่าว มองเฟิ่งจิ่วอย่างอิหลักอิเหลื่อแวบหนึ่ง เห็นนางเพียงยิ้มๆ ไม่พูดอะไร จึงกระซิบคำเกลี้ยวกล่อม “นายท่าน ท่านจะยอมรับนางเป็นเจ้านายง่ายๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ! ท่านอย่าลืม นางเป็นผู้หญิง เพื่อสุรานี้ท่านก็จะยอมรับนางเป็นเจ้านายแล้วหรือ จะทำอย่างนี้ได้อย่างไร”
“พรืด!” นายท่านเซียวเหยาหลุดขำ เหล่มองชายชราแวบหนึ่ง ก่อนหันไปมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้าเมืองเฟิ่ง เจ้าคิดว่าเหตุใดข้าจึงต้องอยู่ที่นี้ต่อเพื่อเป็นคนของเจ้า”
เฟิ่งจิ่วจิบสุราคำหนึ่ง หยักยิ้มมุมปาก ตอบว่า “อ่านสถานการณ์ออกอย่างชัดเจน รู้ว่าทำเช่นนี้จึงจะดีที่สุด” เธอเงียบไปเล็กน้อย มองหน้าเขา แล้วเอ่ยต่อว่า “ฉะนั้นข้าถึงได้บอกว่าเจ้าไม่ธรรมดา ใจกล้าเกินคน”
กล้ามาหาถึงที่เช่นนี้ เห็นได้ถึงความใจกล้าบ้าบิ่นของคนผู้นี้ หากเธอมีคนอย่างนี้อยู่ในมือ ภายหน้ากลับสามารถช่วยเธอดูแลเรื่องในวังกำเนิดสวรรค์ได้
“ได้ยินหรือยัง” เขาหันไปมองชายชราที่ยืนอยู่ด้านหนึ่ง “นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ข้าตัดสินใจอยู่ที่นี่”
สำหรับเขา การอยู่ในนี้ก็มีเพียงเท่านี้เอง พลังไม่อาจพัฒนาขึ้นได้อีก ถูกขังอยู่ในนี้ไม่อาจออกไปไหนได้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ จะยังมีอะไรให้น่าแก่งแย่งกันอีก
นิสัยใจคอของคนตรงหน้าก็ยิ่งถูกชะตาเขานัก แค่คำเรียกขานว่านายท่าน จะเปล่งออกจากปากไม่ได้เชียวหรือ
ชายชราอ้าปาก ครู่หนึ่งก็ยังพูดอะไรไม่ออก เขาอึ้งค้างไปทั้งคน หากเขารู้ว่านายท่านมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เช่นนี้ ตีให้ตายเขาก็จะลากนายท่านกลับไม่ให้มา แต่ตอนนี้ ดูความหมายนายท่านคือไม่คิดจะกลับไปแล้ว คิดจะอยู่ที่นี่ทั้งอย่างนี้เลย
ชั่วขณะหนึ่ง เขายืนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น รู้สึกเพียงความคิดของนายท่านเขาตามไม่ทัน หากนายท่านยอมรับเจ้าเมืองเฟิ่งเป็นเจ้านาย เช่นนั้นต่อไปนายท่านของเขาคือใครเล่า
กู่เสียงที่ยืนอยู่ข้างหลังเฟิ่งจิ่วเองก็ตะลึงงันเช่นกัน นึกไม่ถึงว่านายท่านเซียวเหยาวผู้นี้กลับมาหาถึงที่แล้วบอกว่าจะอยู่ต่อ ยอมรับนายท่านของพวกเขาเป็นเจ้านายอย่างนี้
เรื่องอย่างนี้หากตัดสินกันอย่างนี้จริงๆ อย่างนั้นหากข่าวแพร่ออกไป เดาว่ากลุ่มอำนาจที่เหลือจะต้องตะลึงพรึงเพริดจนครึ่งวันก็ยังไม่อาจตั้งสติได้อย่างแน่นอน จากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มนั่งไม่ติด
ยังมีลูกน้องของนายท่านเซียวเหยาอีก แต่ละคนจะต้องอึ้งค้างอย่างแน่นอน…
………………………………….
ตอนที่ 2328 ปัญหา
อาจเพราะนิสัยไม่คิดเล็กคิดน้อยของอีกฝ่าย พอเขาบอกว่าจะอยู่ที่นี่ เฟิ่งจิ่วกลับไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงกำชับกู่เสียง ให้เตรียมที่พักให้เขา ขณะเดียวกันก็แจ้งให้ทุกคนทราบด้วย
“ลูกน้องของข้ายังมีบางคนที่ไม่เลว เจ้าจะหาเวลาไปดูหน่อยหรือไม่” เขาถามเฟิ่งจิ่ว
“เรื่องนี้ไม่รีบ” เธอยิ้มๆ ดื่มสุราแก้วหนึ่ง เอ่ยว่า “ขอเพียงปล่อยข่าวออกไป บอกว่าเจ้ายอมจำนนต่อข้า ข้าเชื่อว่าไม่ต้องให้ข้าไป คนพวกนั้นก็จะตามมาเอง”
นายท่านเซียวเหยาฟังจบก็หัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้ว”
ทั้งสองพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ที่นี่ ดื่มสุราแกล้มไปพลาง จนกระทั่งเริ่มค่ำขึ้นเรื่อยๆ เฟิ่งจิ่วจึงกำชับกู่เสียง “พากเขาไปพักผ่อนเถอะ!” จากนั้นเธอลุกขึ้นเดินออกไป
“ไง ต่อไปพวกเราก็เป็นพี่น้องกันแล้ว”
เขาฉีกปากยิ้มกว้าง เอื้อมมือไปหมายจะตบไหล่เขา แต่ครั้นสัมผัสได้ถึงสายตาที่ตวัดมองมา มือของเขาที่ยื่นออกไปพลันหมุนกลับมาตบที่หน้าขาของตนเอง “ไปๆๆ ข้าพาพวกเจ้าไปพักผ่อน” คนคนนี้มีพลังแข็งแกร่งกว่าเขา ทำให้แค่สายตาเดียวที่ตวัดมาก็ทำให้เขาหัวหดอย่างช่วยไม่ได้แล้ว ผู้มีพลังใหญ่สุดจริงๆ
เหมือนที่เฟิ่งจิ่วบอก เมื่อข่าวที่นายท่านเซียวเหยายอมสวามิภักดิ์ต่อเธอถูกปล่อยออกไป กลุ่มอำนาจที่เหลือต่างก็แตกตื่นลนลาน ส่วนเหล่าผู้ฝึกตนในเมืองเดิมของนายท่านเซียวเหยาก็ค่อยๆ ตามมา
แม้รู้ทั้งรู้ว่าเฟิ่งจิ่วทางนี้ไม่รับผู้ฝึกวิชามาร ก็ยังมีคนมาพร้อมกับความหวังริบหรี่…
วันเวลาที่อยู่ในนี้ ผ่านพ้นไปทีละวันๆ พริบตาเดียว ก็เป็นเวลาหลายเดือนผ่านไปแล้ว
ขณะเดียวกันข้างนอก ที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที บรรยากาศค่อนข้างหนักอึ้ง วันนี้ เหล่าผู้ดูแลของหอยาสวรรค์ต่างก็มารวมตัวหารือกันอยู่ที่ลานบ้านข้างหลัง ในนั้น แม้แต่โฒ่เฉินก็อยู่ นอกจากโม่เฉิน ยังมีหนิงหลาง ต้วนเยี่ย ลั่วเฟย และซ่งหมิงที่เฟิ่งจิ่วเคยฝึกฝนพวกเขาด้วยมือตนเองรวมอยู่ด้วย
“เรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็แปลก ตั้งแต่พี่กวนได้รับจดหมายและจากไปก็หลายเดือนแล้วยังไม่มีข่าวคราวจากเขาอีก แต่ระหว่างนี้กลับมีข่าวหลุดออกมาว่าเขาแฝงตัวเข้าไปในสี่สำนักใหญ่ แล้วยังฆ่าเจ้าเขาไปหลายคนอีก”
“ตอนนี้คนของสี่สำนักใหญ่ล้วนโกรธแค้น ออกคำสั่งฆ่าสู่ภายนอกแล้ว ขณะเดียวกันยังส่งคนไปเฝ้าหอยาสวรรค์ของเราอีก รอเพียงเขากลับมาก็จะจับเขาส่งตัวไปที่ยอดเขาเชียนเจวี๋ยเพื่อสังเวยชีวิตของเจ้าเขาพวกนั้นที่ถูกสังหาร ตอนนี้นายท่านก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน คุณชายโม่เฉิน เรื่องนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี”
ทุกคนหันไปมองโม่เฉิน ถามความคิดเห็นของเขา
โม่เฉินมองพวกเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “ตอนนี้ย่อมต้องหาตัวกวนสีหลิ่นให้เจอก่อน ถามเขาว่าเรื่องพวกนี้เป็นฝีมือของเขาจริงหรือไม่ หากไม่ใช่ ระหว่างนี้ไปอยู่ที่ไหนมา ขอเพียงให้การยืนยันว่าเรื่องพวกนั้นไม่ใช่ฝีมือของเขา สี่สำนักเซียนใหญ่ย่อมไม่มีทางทำอะไรเขาอยู่แล้ว”
ซ่งหมิงที่อยู่ข้างพยักหน้า กล่าวว่า “ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องไม่ใช่ฝีมือของเขาแน่ เขาไม่มีแรงขับเคลื่อนนั้น หนำซ้ำ ระหว่างที่เขาไม่อยู่นี้ก็มีปัญหามาก”
ต้วนเยี่ยมองพวกเขา และเอ่ยอย่างเห็นด้วย “ใช่แล้ว ตอนนั้นเขายังเคยพูดกับข้า ตอนนี้เฟิ่งจิ่วไม่อยู่ที่นี่ เขาจะปกป้องหอยาสวรรค์แทนนาง ระหว่างนี้ไม่คิดจะออกไป แต่จู่ๆ วันนั้นหลังจากได้รับจดหมาย เขาไม่ได้กำชับอะไรก็ออกไปเลย อีกทั้งเมื่อไปแล้วก็ไม่เคยกลับมาอีก ข้าคิดว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในพักนี้แน่นอน”
“แต่ปัญหาก็คือ แม้พวกเราจะส่งคนออกไปตามหา ก็ยังไม่พบร่องรอยของเขาเลย”
………………………………….
Jan1960
กวนสีหลิ่นหายไปไหน