หมอหญิงยอดมือสังหาร - ตอนที่ 1001 การกลับมาของคุณชายเสียนเกอ หยั่งเชิง (2)
ตอนที่ 1001 การกลับมาของคุณชายเสียนเกอ หยั่งเชิง (2)
หัวคิ้วของเซียวเชียนเหว่ยไม่ได้คลายออกเพราะคำรับรองของเนี่ยนหย่วนเลยแม้เพียงนิด มองดูธงที่พริ้วไสวอยู่บนกำแพงเมืองตรงหน้า เสียงต่อสู้ฆ่าฟันดังให้ได้ยินไม่หยุดหย่อน เขาเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม “ต่อเนื่องมาหลายวัน แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววใด“
เนี่ยนหย่วนหันไปมองเซียวเชียนเหว่ย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แทนที่จะกังวลเรื่องอวิ๋นตู ทำไมไม่ลองคิดอย่างอื่นเล่า”
“อย่างอื่นหรือ” เซียวเชียนเหว่ยชะงัก ดวงตาฉายแววสงสัย สายตาคมจ้องมองไปยังพระชุดขาวสง่างามตรงหน้า “ไต้ซือต้องการเอ่ยสิ่งใด”
เนี่ยนหย่วนส่ายศีรษะ ถอนหายใจเสียงเบา เอ่ย “คุณชายรองเข้าใจผิดแล้ว อาตมามิได้มีความหมายอื่นใด เพียงแต่เมืองอวิ๋นตูอย่างไรก็ต้องแตก เมืองเผิง…เซ่าจงเฝ้ามาหลายเดือน เกรงว่าคงใกล้จบแล้วเช่นกัน เพียงอวิ๋นตูเสียเมือง กองทัพโยวโจวข้ามแม่น้ำหลีเจียง…จินหลิงก็อยู่ตรงหน้าแล้ว”
ฟังที่เนี่ยนหย่วนเอ่ย หัวใจของเซียวเชียนเหว่ยพลันกระตุก ใช่ ข้ามแม่น้ำหลีเจียงไป จินหลินก็อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ร้อยลี้ หลายปีก่อนพวกเขาพี่น้องเพิ่งหนีจากจินหลิงกลับโยวโจว ไม่คิดว่าเวลาเพียงไม่กี่ปี พวกเขาก็ได้เข้าใกล้เมืองอีกครั้งแล้ว ถึงตอนนั้น…
คิดมาถึงตรงนี้ ความคิดของเซียวเชียนเหว่ยก็ไม่อาจควบคุมได้ คิดไปต่างๆ นานา เพียงเสด็จพ่อย้ายเข้ามาอยู่ในจินหลิง ขึ้นครองบัลลังก์กลายเป็นฮ่องเต้ จากนั้น…
มองสีหน้าเคร่งขรึมของเซียวเชี่ยนเหว่ยที่เปลี่ยนไปมา ราวกับลืมไปว่าตรงหน้ายังคงเป็นสงครามที่กำลังวุ่นวาย ใบหน้าหล่อเหลาของเนี่ยนหย่วนเผยรอยยิ้มใจดีเห็นอกเห็นใจออกมา ราวกับพระผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
“พูดคุยหัวเราะกันอยู่ในสนามรบ ทั้งสองท่านช่างมีเวลาว่างเสียจริง” เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความขี้เล่นดังมาจากด้านหลัง เซียวเชียนเหว่ยที่กำลังติดอยู่ในภวังค์ตกใจ รีบหันกลับไป มองเห็นคุณชายเสียนเกอในชุดสีขาวเดินเข้ามาใกล้ด้วยท่วงท่าสง่างาม เพียงแต่วิชาตัวเบาของเขาไม่ธรรมดา ดูคล้ายกับเดินเที่ยวเล่นอยู่ในสวน ทว่าใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า แม้แต่จะดูว่าเขามาจากทางใดก็ยังไม่ทันได้ดู
“คุณชายเสียนเกอ” เพราะหลายปีมานี้เยี่ยนอ๋องคอยรักษาอาการป่วยของเยี่ยนอ๋องมาตลอด และยังได้รับเกียรติจากเยี่ยนอ๋อง คุณชายเซียวทั้งสามแม้จะเป็นคุณชายจวนอ๋อง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาจึงสุภาพและระมัดระวัง “คุณชายเสียนเกอจากไปหลายเดือน ในที่สุดก็กลับมาแล้ว เดินทางเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”
เสียนเกอยิ้ม เอ่ย “ลำบากคุณชายรองเป็นห่วงแล้ว เดินทางราบรื่น แน่นอนว่าดีมาก”
เซียวเชียนเหว่ยยิ้ม เอ่ย “เช่นนั้นก็ดีแล้ว คุณชายเสียนเกอมาหาพี่ชายหรือ วันนี้พี่ชายมิได้ออกมา”
คุณชายเสียนเกอสะบัดแขนเสื้อ ถีบเท้ากระโดดขึ้นไปบนม้าหล่อเหลาที่ผู้บัญชาการคนหนึ่งจับเอาไว้ ไม่สนใจสายตาตื่นตกใจของเขา ควบม้าเดินเข้าไปเคียงข้างกับทั้งสองคน เอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อย “จะหาเขาทำไมกัน ข้าเพียงได้ยินมาว่าหลายวันมานี้ไต้ซือเนี่ยนหย่วนกำลังวางแผนโจมตีเมือง รู้สึกแปลกใจจึงมาดูก็เท่านั้น”
“…” เนี่ยนหย่วนและเซียวเชียนเหว่ยไร้ซึ่งวาจา อยู่ในกองทัพหลายปีเสียนเกอไม่เคยสงสัยในความสามารถของเนี่ยนหย่วน ตอนนี้ไยจึงรู้สึกสนใจขึ้นมาเล่า
คุณชายเสียนเกอยิ้มร่ามองไปยังเนี่ยนหย่วน เอ่ย “คุณชายเช่นข้าเพิ่งพบว่า มีความชอบคล้ายกันกับไต้ซือเนี่ยนหย่วนมาหลายปี แต่กลับไม่เคยพูดคุยกับไต้ซือเลย ช่างน่าเสียดายนัก” เนี่ยนหย่วนยิ้มบาง “คุณชายเสียนเกอเอ่ยหนักไปแล้ว”
คุณชายเสียนเกอหันไปมองสำรวจเนี่ยนหย่วน ยิ้มพลางเอ่ย “จะว่าไป คุณชายเช่นข้านั้นรู้สึกว่าตนเองคุ้นหน้าไต้ซือนัก”
สีหน้าของเนี่ยนหย่วนยังคงไม่เปลี่ยน รอยยิ้มเป็นมิตร สายตาที่มองไปยังคุณชายเสียนเกอเรียบนิ่งราวกับไม่ใส่ใจ เอ่ย “อ้อ อาตมารู้จักกับคุณชายเสียนเกอมานานหลายปี หรือว่ายังไม่พอให้คุณชายคุ้นตาอีกหรือ”
คุณชายเสียนเกอส่ายศีรษะ ยิ้มแล้วจึงเอ่ย “ไม่ น่าจะเป็นหลายปีก่อน…ที่ข้าเคยเห็นไต้ซือถึงจะถูก เพียงแต่ไม่รู้ทำไม กลับนึกไม่ออก”
“อ้อ หลายปีก่อน อาตมาเคยเจอกับคุณชายอยู่หนึ่งครั้ง คิดว่าคุณชายเสียนเกอคงลืมไปแล้ว ยามนั้นได้ยินเสียงเพลงฉินไพเราะจากคุณชายเสียนเกอ เนี่ยนหย่วนละอายมิกล้าบอกว่าตนเองถนัดเพลงฉินอีก”
คุณชายเสียนเกอยังคงส่ายศีรษะ “ที่ไต้ซือเอ่ยนั่นข้าจำได้…อยู่ที่หอฉีอวิ๋นเมืองหมิงโจว แต่ว่าก่อนหน้านั้น…และหลังจากนั้น…”
เนี่ยนหย่วนนิ่งเงียบ เซียวเชียนเหว่ยไม่เข้าใจ “คุณชายเสียนเกอเคยเจอไต้ซือเนี่ยนหย่วนเมื่อใดสำคัญมากเลยหรือ” เนี่ยนหย่วนเป็นพระ ต่อให้อยู่ในกลุ่มคนก็โดดเด่นออกมาทำให้สังเกตเห็นได้ง่าย แม้ว่าคุณชายเสียนเกอจะบอกว่าตนเองเคยเจอเนี่ยนหย่วน ไยจึงจำไม่ได้ถึงสถานที่และเวลาเล่า
คิ้วคมของคุณชายเสียนเกอเลิกขึ้น ยิ้มออกมา เอ่ย “นึกออกแล้ว เก้าปีก่อนบนเส้นทางกลับตานหยาง ในตอนที่กำลังพักอยู่ข้างทาง ราวกับเห็นเณรไม่กี่คนกำลังแบกไต้ซืออยู่ ตอนนั้นไต้ซือคล้ายกับกำลังบาดเจ็บหนัก”
เนี่ยนหย่วนหลุบตาลง ยิ้มบางแล้วเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เก้าปีก่อนอาตมาไปไหว้ผู้อาวุโสผู้หนึ่งที่ตานหยาง ระหว่างทางเจอเข้ากับกลุ่มโจรจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่คิดว่าได้สวนทางกับคุณชายเสียนเกอ ไม่รู้เลยจริงๆ ทว่าน่าเสียดาย โชคดีที่ได้มาเจอกับคุณชายในกองทัพโยวโจวอีกครั้ง นับว่ายังมีโชคชะตา”
คุณชายเสียนเกอพยักหน้า “ไต้ซือเอ่ยได้ไม่เลว ได้ข่าวว่าไต้ซือเชี่ยวชาญศิลปะทุกแขนง หากมีเวลาข้าเองก็อยากขอคำชี้แนะจากไต้ซือ”
“มิกล้าชี้แนะ” เนี่ยนหย่วนเอ่ย
“ไต้ซือ วันนี้พอประมาณแล้วหรือไม่” ด้านข้าง เซียวเชียนเหว่ยเอ่ยถามขึ้น
เนี่ยนหย่วนเงยหน้ามองสนามรบไกลออกไป พยักหน้า เอ่ย “ตีฆ้องถอยทัพก่อนเถิด”
เมื่อตีฆ้องถอยทัพ ทหารที่สู้จนสุดตัวเมื่อครู่ค่อยๆ ทยอยถอยทัพกลับมา เนี่ยนหย่วนพยักหน้าให้กับทั้งสอง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเองก็ควรกลับไปแล้ว ไม่รู้ว่าฝั่งคุณชายหนานกงกับคุณชายใหญ่เป็นอย่างไร”
“ไต้ซือเอ่ยถูกแล้ว” เซียวเชียนเหว่ยพยักหน้า เอ่ย “คุณชายเสียนเกอ เชิญขอรับ”
“ขอบคุณ” คุณชายเสียนเกอมองตามหลังเนี่ยนหย่วนที่ควบม้าออกไปก่อน มุมปากยกยิ้มด้วยความสนอกสนใจ ยกมือซ้ายขึ้นมาลูบปลายนิ้วเบาๆ ละอองเล็กแทบมองไม่เห็นร่วงหล่นจากปลายนิ้วลอยหายไปกับอากาศ
กระโจมที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง คุณชายเสียนเกอนั่งจัดการกับยาของตนเองที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างอารมณ์ดี เดินทางออกไปนอกด่านกำแพงเมืองไม่เพียงเพื่อพิษของเยี่ยนอ๋อง ยังเก็บสมุนไพรที่ไม่มีในจงหยวน เคยเห็นแต่เพียงในหนังสือมาได้ไม่น้อย แตกต่างไปจากหนานกงมั่วที่ชอบร่ำเรียนสิ่งที่ใช้ได้จริงเท่านั้น เห็นชัดว่าคุณชายเสียนเกอชอบศึกษาทดลองมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นพิษหรือยาถอนพิษ เขาล้วนสนใจทั้งนั้น
วางขวดยาที่เพิ่งปรุงได้กลับลงไปบนโต๊ะด้วยความภาคภูมิใจ ใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายเสียนเกอเผยรอยยิ้มมีความสุขออกมา
ผ้าม่านหน้ากระโจมถูกคนเปิดออกจากด้านนอก คุณชายเว่ยใบหน้าเรียบนิ่งยืนอยู่หน้าประตู กวาดตามองเข้ามายังคนที่อยู่ด้านในรวมไปถึงสมุนไพรหลากหลายชนิดที่เขาไม่รู้จักที่วางอยู่บนโต๊ะ
“มีเรื่องอันใด” คุณชายเสียนเกอเลิกคิ้วเอ่ย
“เจ้าทำอันใดกับเนี่ยนหย่วน” เว่ยจวินม่วเอ่ยถาม คุณชายเสียนเกอไม่เข้าใจ “เอ๋ พระนั่นเป็นอันใดหรือ”
เว่ยจวินมั่วเดินเข้ามา ทว่าไม่เดินเฉียดเข้าใกล้โต๊ะตรงหน้าของคุณชายเสียนเกอในระยะสามก้าว เอ่ยเสียงเรียบ เมื่อครู่ผู้ติดตามของเนี่ยนหย่วนมารายงาน ใบหน้าของเนี่ยนหย่วนมีผื่นขึ้น”
“อ้อ เช่นนั้นก็โชคร้ายแล้ว” ใบหน้าคุณชายเสียนเกอแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ เอ่ยอย่างจริงใจ “ต้องการให้ข้าช่วยอันใดหรือไม่”
เว่ยจวินมั่วปรายตามองเขา “เจ้าอยากตรวจให้เขาหรือ”
คุณชายเสียนเกอยิ้มตาหยี “ข้าเพียงเพิ่งนึกได้ว่าข้าไม่เคยจับชีพจรให้ไต้ซือเนี่ยนหย่วนก็เท่านั้น”
เว่ยจวินมั่วยิ้มเย็น “เห็นได้ว่าไต้ซือเนี่ยนหย่วนคงไม่เชื่อมั่นในฝีมือการแพทย์ของเจ้า เขาตามหมอในกองทัพไปดูแล้ว” คุณชายเสียนเกอลูบปลายคางพลางครุ่นคิด “เจ้ารู้สึกหรือไม่ เนี่ยนหย่วนพระผู้นั้น คล้ายกับกำลังกลัวข้า”
คุณชายเว่ยส่งยิ้มเหยียดหยันให้เขา เนี่ยนหย่วนกลัวเจ้าอย่างนั้นหรือ หากไม่ใช่เพราะเสียนเกอมีความสามารถในการใช้พิษทำให้คนหวาดกลัว ต่อให้เนี่ยนหย่วนไร้ความสามารถทั้งสองคนนี้สู้กันไม่แน่ว่าใครจะตายก่อน
คุณชายเสียนเกอก็ไม่ใส่ใจการเย้ยหยันของเขา เอ่ยสบายๆ “สามปีมานี้ทุกคนอยู่ในกองทัพ ข้ากับเขาเจอกันนับครั้งได้ ต่อให้ป่วยก็ไม่มาให้ข้ารักษา เจ้าดูตอนนี้สิ แม้แต่ใบหน้ามีผื่นขึ้นก็ยังไม่ยอมมาให้ข้าดู”
“เจ้าคิดว่าเขาจะเดาไม่ออกว่าเป็นฝีมือของเจ้าหรือ” รู้อยู่ว่าเป็นฝีมือของเจ้ายังจะมาหาเจ้า สมองของเนี่ยนหย่วนคงถูกประตูกระแทกไปแล้วกระมัง
เสียนเกอปรายตามองเว่ยจวินมั่วโดยไม่รักษาท่าทีสง่างามของตน เอนตัวพิงเก้าอี้เอ่ยเสียงเนิบนาบ “เนี่ยนหย่วนกำลังซ่อนตัวจากข้า ข้าคิดว่าข้าเองก็ไม่ใช่คนที่น่าเกลียดขนาดนั้น ดังนั้น…”
“ดังนั้น เจ้าอาจจะไปรู้ความลับของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ตัวเจ้าลืมไปแล้ว เขากลัวว่าหากอยู่ใกล้เจ้าแล้วเจ้าจะนึกขึ้นมาได้” เว่ยจวินมั่วช่วยเขาเอ่ยให้จบประโยค คุณชายเสียนเกอพยักหน้า “เป็นเช่นนั้น” เว่ยจวินมั่วเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “เช่นนั้น เจ้ารู้ความลับเกี่ยวกับเนี่ยนหย่วนอย่างนั้นหรือ”
คุณชายเสียนเกอยกมือพร้อมกับยักไหล่อย่างจนปัญญา เอ่ย “ปัญหาก็คือ ข้าไม่รู้ความลับอันใดเกี่ยวกับเขานะ ความจำข้าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเนี่ยนหย่วนก็มีเพียงสองครั้งเท่านั้น ข้าไม่ได้ไปแอบดูความลับอันใดของเขาอย่างแน่นอน”
“ดังนั้น เจ้ากำลังเอ่ยไร้สาระกับข้าอย่างนั้นหรือ” สายตาอันตรายของเว่ยจวินมั่วหรี่ลง
คุณชายเสียนเกอถอนหายใจ “ไม่รู้จริงๆ ว่ามั่วเอ๋อร์รับคนอย่างเจ้าได้เยี่ยงไร แม้ข้าจะไม่รู้ความลับอันใดของเนี่ยนหย่วน แต่ว่า…ข้ากลับนึกถึงคนคนหนึ่งที่ต้องการสังหารข้าปิดปากอย่างแปลกประหลาด”
เว่ยจวินมั่วกลับไม่แปลกใจ “กงอวี้เฉิน”
คุณชายเสียนเกอยักไหล่ เอ่ย “ไม่ผิด เมื่อเทียบกับเนี่ยนหย่วนข้ายิ่งไม่สนิทกับกงอวี้เฉิน แต่กลับทำราวกับอยากสังหารข้ามากอย่างไรอย่างนั้น หากบอกว่าต้องการกำจัดผู้ช่วยของมั่วเอ๋อร์ ก็ควรจะลงมือกับอาจารย์และอาจารย์ลุงถึงจะถูก” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการแพทย์อาจารย์ลุงไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา เอ่ยถึงวรยุทธ์อาจารย์เก่งกาจกว่าเขาหลายเท่า เขาไม่มีความแค้นกับกงอวี้เฉิน…เอ่อ ก็ได้ เมื่อครั้งอยู่วัดซั่งหลินเหมือนจะแย่งของของเขา แต่นั่นก็ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ทำนี่นา กงอวี้เฉินกลับไม่เสียดายที่จะเสียลูกน้องจำนวนมากเพื่อสังหารเขา ประหลาดเสียจริง
“แล้วอย่างไร”
คุณชายเสียนเกอลูบปลายคาง ยิ้มพลางเอ่ย “เจ้าเองก็สงสัยเขาตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือ ยังจะแล้วอย่างไร คุณชายเช่นข้าเพียงอยากช่วยเจ้าพิสูจน์สักหน่อย ไม่ต้องขอบคุณ”
เว่ยจวินมั่วกวาดตามองเขา “อย่าบีบเขาจนเกินไป”
คุณชายเสียนเกอพยักหน้าเบาๆ ดวงตาที่เคยยิ้มเคร่งขรึมขึ้น “ข้าเคยบอกต้องมีสักวัน ข้าจะตามมาคิดบัญชีกับเขาด้วยตัวเอง ตอนนี้ถือเสียว่าเป็นกำไรก็แล้วกัน”