ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1569 นอนเตียงเดียวกัน
บทที่ 1569 นอนเตียงเดียวกัน
…………….
บทที่ 1569 นอนเตียงเดียวกัน
กู้เสี่ยวหวานอยากจะมองเขาในชุดคู่ให้นานกว่านี้ แต่ว่าอาการง่วงที่เข้ามาครอบงำนั้นมากเกินไป
นางพยายามเอามือเท้าคางไว้ แต่กลับสัปหงกเพราะง่วงนอนเหมือนไก่จิกข้าว หลังจากที่ฉินเย่จือเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจึงออกมา เขาก็เห็นภาพน่าเอ็นดูตรงหน้า
ผู้หญิงผมสีดำในชุดสีขาวคล้ายกับเขากำลังเอามือเท้าคางด้วยอาการง่วงนอนจนตาปรือ แต่ยังคงพยายามฝืนไว้
เมื่อครู่มีคนพูดอย่างตื่นเต้นว่า ต้องรอดูว่าเขาแต่งตัวอย่างไร เขาเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแค่ครู่เดียว แต่หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า ใครบางคนก็สัปหงกจนเหมือนไก่กำลังจิกกินข้าว
ฉินเย่จือส่ายหน้าพลางแย้มยิ้ม เขามองลูกแมวที่นั่งสัปหงกด้วยความเอ็นดู ภาพน่ารักนั้นทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบ
นางคือคนรักของเขา
นางจะเป็นภรรยาของเขาในอนาคต
นางเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต นางจะเป็นของเขา
เขามองหญิงตรงหน้าอย่างลุ่มหลงจนแทบไม่อยากละสายตา อยากเก็บนางเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ และในอนาคตหญิงคนนี้จะถูกสลักลึกในร่างกายของเขา
ไปจนตาย…
ดวงตาของเขาจดจ่อและกระตือรือร้น เขาสามารถเห็นทุกการเคลื่อนไหวของกู้เสี่ยวหวานได้อย่างชัดเจน
“ระวัง…” ฉินเย่จือรีบวิ่งไปข้างหน้าด้วยความตกใจ และเอื้อมมือไปประคองศีรษะของกู้เสี่ยวหวานที่กำลังจะกระแทกโต๊ะ แม้ว่าเขาจะป้องกันไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บได้ทัน แต่หัวใจของเขาก็ยังคงเป็นทุกข์ และเอาแต่โทษตัวเองที่หมกมุ่นเกินไป ถ้านางเจ็บตัวขึ้นมาจริง ๆ เขาคงเกลียดตัวเองจนตาย
คนในอ้อมแขนของเขายังคงหลับสนิท ฉินเย่จือก้มหัวลงและกระซิบเสียงแผ่ว “แมวน้อย ไปนอนกันเถอะที่รักของข้า เราไปนอนกันเถอะ”
กู้เสี่ยวหวานยังคงมีสติสัมปชัญญะสุดท้าย และได้ยินสามคำสุดท้ายอย่างชัดเจน
หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ แล้วกอดฉินเย่จือแน่น ดวงตาของนางยังคงปิดสนิท แต่กลับพิงแขนของฉินเย่จือด้วยความสบายใจและกอดเขาไว้แน่น
ในยามหลับสนิท ตราบใดที่ได้ยินเสียงของฉินเย่จือและอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ตราบใดที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ นางก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
นางได้กลิ่นที่คุ้นเคยและผล็อยหลับไป
ฉินเย่จือวางนางลงบนเตียงอย่างเชื่องช้า ดึงผ้าห่มมาคลุมให้นางแล้วนั่งลงข้างเตียง เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่กำลังหลับใหล เขาก็หันไปมองมือที่จับกันแน่นของพวกเรา
ถึงนางจะผล็อยหลับไป แต่ก็ยังจับมือเขาเอาไว้แน่น
ฉินเย่จือไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะปลุกให้นางตื่นขึ้น ดังนั้นจึงได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้น
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพเซียน ทันทีที่เขายกมือขึ้น แสงที่ส่องสว่างในบ้านก็ถูกคลุมด้วยผ้าสีดำหนา และห้องด้านในที่สว่างไสวก็ตกอยู่ในความมืด ชั่วพริบตาเหลือเพียงหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทำให้มุมหนึ่งของห้องสว่างขึ้น
ผ้านวมที่ปูอย่างเรียบร้อยบนเบาะนุ่มในห้องยังคงวางไว้อย่างเรียบร้อย แต่มีอีกคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง
ฉินเย่จือล้มตัวลงนอนข้าง ๆ กู้เสี่ยวหวาน แต่เขานอนอยู่บนผ้านวม ไม่ได้สอดตัวเข้าไปในห่มผ้านวมผืนเดียวกับกู้เสี่ยวหวาน แต่หยิบผ้าห่มอีกผืนจากข้างในมาห่มให้ตัวเอง
นางรู้สึกว่ามีใครบางคนอยู่ด้านข้าง กู้เสี่ยวหวานผู้ซึ่งไม่เคยชินกับการมีคนอยู่ข้าง ๆ แต่นางก็รู้สึกเหนื่อยเกินไป เมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคยนั้นก็ขยับเข้าไปใกล้ขึ้น จากนั้นก็นอนหลับอย่างสบายใจ
ฉินเย่จือยังไม่ได้หลับตาลง เพียงแค่มองไปที่ใบหน้าที่กำลังหลับใหลข้างกายโดยอาศัยแสงจันทร์นอกหน้าต่าง
ใบหน้าเรียวเล็กสวยมีเลือดฝาด เรือนผมสีดำราวกับน้ำหมึกสยายบนผ้านวม ปกปิดใบหน้าด้านข้าง เหลือเพียงจมูกขาวที่เชิดขึ้นและริมฝีปากสีแดง
ฉินเย่จือสัมผัสได้ถึงความคับแน่นของร่างกายส่วนล่าง ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างอนทนอดกลั้น อาการกระสับกระส่ายในร่างกายทำให้เขารู้สึกอึดอัด
เขามองไปที่ ‘ผู้ร้าย’ คนนี้ที่สามารถแกล้งคนอื่นได้แม้ว่านางจะหลับ เขาส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้พลางแย้มยิ้ม เขากระชับมือที่จับกันไว้แน่นแล้วเอื้อมมือไปปัดผมบนใบหน้าของกู้เสี่ยวหวาน ผมสีดำ ใบหน้าเล็กที่งดงามและเรียบเนียนราวกับไข่ต้มที่ถูกปอกเปลือก
ทันใดนั้นก็มีกระแสน้ำอุ่นอีกสายหนึ่งพัดผ่านมือไป ทำให้เขาตัวแข็งทื่อไป ลูกแมวตัวนี้แค่มองก็อดใจไม่ไหวแล้ว ถ้านางโตกว่านี้ก็คงไม่รอด
ฉินเย่จือตื่นเต้น แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงคนนี้ที่เป็นของเขา หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข
เขาดีใจที่พ่ายแพ้การต่อสู่ครั้งที่แล้วจนตนเองถูกแทงและตกลงไปในน้ำ เวลานั้นเขาคิดว่าตนเองคงจะไม่รอดแล้ว แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะรอดมาได้จากความตายในครั้งนั้นเพราะได้รับการช่วยเหลือจากคนตรงหน้า
บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตาของเขา
ในอดีตเขามักจะรู้สึกว่าท่านพ่อของเขาฆ่าคนมากมาย นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านแม่ของเขาเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า
ต่อมาก็รู้สึกว่าตัวเองได้ฆ่าคนไปมากมาย แต่เนื่องจากเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงจึงไม่มีใครอยู่รอบตัว นอกจากองครักษ์ส่วนตัวไม่กี่คน
เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองจะตายอย่างโดดเดี่ยว แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะได้พบกับคนที่เขาอยากจะทะนุถนอมไปตลอดชีวิต
นางคือหัวใจของเขา
ฉินเย่จือมองไปที่นางอย่างลึกซึ้ง จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ หลับตาลง และพยายามปรับลมหายใจให้ปกติ
จากนั้นโน้มตัวไปข้างหน้าพลางกดจูบลงบนหน้าผากเนียน “ราตรีสวัสดิ์ แมวน้อยของข้า ข้ารักเจ้า”
ในอนาคตหวังว่าทุกเช้าที่ลืมตาขึ้น ข้าจะได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย จูบริมฝีปากสีชมพูนั่น และได้ยินเสียงที่มีเสน่ห์นั้นพูดว่าอรุณสวัสดิ์
ข้าหวังว่าทุกคืนวันจะมีเจ้าเคียงข้างกาย ทันทีที่หลับตาก็สามารถสัมผัสนางได้ จูบนาง และบอกราตรีสวัสดิ์แก่นางในทุกค่ำคืน
และข้ารักเจ้าตลอดไป
…………….