ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 1570 มีจดหมายมา
บทที่ 1570 มีจดหมายมา
…………….
บทที่ 1570 มีจดหมายมา
เช้าวันรุ่งขึ้น กู้เสี่ยวหวานลุกขึ้นจากเตียงพลางบิดขี้เกียจ เมื่อคืนนางหลับสบายมาก หญิงสาวลืมตาขึ้นช้าพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้ท้องฟ้าสว่างแล้ว ดังนั้นจึงรู้สึกว่าวันนี้ตนเองตื่นสาย
เมื่อได้เกิดใหม่อีกครั้งในอีกโลกหนึ่ง กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าตัวเองนอนมากขึ้น เพราะเมื่อชาติที่แล้วไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็สามารถตื่นเช้าได้ แต่พอมาอยู่ที่นี่ เมื่อนอนดึกเท่าไรก็ยิ่งต้องการนอนมากขึ้น
หลังจากได้นอนหลับเพียงพอ กู้เสี่ยวหวานรู้สึกสบายตัวไปทั้งตัว นางบิดขี้เกียจเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง “อาจั่ว”
“คุณหนู” อาจั่วที่ได้ยินก็ขานรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดม่านแล้วเดินเข้ามาพร้อมอ่างไม้ในมือ
“ตอนนี้ยามใดแล้ว” กู้เสี่ยวหวานขยี้ตา ทำความคุ้นเคยกับแสงที่อยู่ตรงหน้านาง
“คุณหนู ยามซื่อ*[1] แล้วเจ้าค่ะ”
นอนหลับนานไปจริง ๆ ด้วย
“รอข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่” กู้เสี่ยวหวานกล่าว
อาจั่วเปิดผ้าม่านแล้วแขวนไว้ที่มุมเตียง จากนั้นก็โน้มตัวไปเพื่อยกผ้านวมออก
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกถึงน้ำเสียงที่สงสัยของอาจั่วเล็กน้อย สิ่งที่นางเห็นคือผ้านวมอีกผืนที่อยู่บนเตียง และมันไม่ใช่ผ้าห่มที่กู้เสี่ยวหวานมักจะใช้อยู่เสมอ อาจั่วมองดูมันราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็มองไปที่พรมในห้อง
ผ้านวมบนพรมถูกพับอย่างเรียบร้อย และไม่มีร่องรอยการยับจากการนอน
เมื่อมองไปที่รอยพับบนผ้านวมและผ้านวมที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนคนนั้นขึ้นมานอนกลับนางบนเตียง
เมื่อนึกถึงว่าพวกเขาทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกถึงความร้อนที่แล่นผ่านใบหน้า
“เขาไปตั้งแต่เมื่อไร”
เขาคือใคร อาจั่วย่อมรู้ดี
การแสดงออกของกู้เสี่ยวหวานตกอยู่ในสายตาของอาจั่ว จากนั้นเมื่อนึกถึงท่าทางที่สดชื่นของนายท่านเมื่อเขาตื่นขึ้นและจากไปในตอนเช้า นางก็เข้าใจในทันที
“พี่ใหญ่ฉินออกไปตอนยามอิ๋น*[2] บอกว่าเมื่อคืนท่านนอนดึกและเหนื่อยล้าจึงไม่อยากรบกวน และให้ข้ามาคอยดูแลท่านตอนตื่น” อาจั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าพลางคิดว่าคงไม่เป็นอะไร แต่เมื่อได้ยินบางอย่างที่ฟังดูแล้วผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่อาจั่วอย่างตำหนิ “เมื่อคืนข้านอนดึกก็เพราะเขามาสายไม่ใช่หรือ เขามาสายตั้งหนึ่งชั่วยาม ทำให้เวลานอนของข้าล่าช้า ฮึ่ม! คราวหน้าข้าจะไม่รอเขาแล้ว”
กู้เสี่ยวหวานตำหนิฉินเย่จือด้วยความโกรธ นางบอกอาจั่วว่าอย่าคิดเรื่องนี้อีก มันไม่ได้มีอะไรทั้งนั้น
อาจั่วปิดปากด้วยผ้าเช็ดหน้าและยิ้มจาง ๆ “รับทราบเจ้าค่ะ”
เมื่อเช้าตอนที่นายท่านออกมา ใบหน้าของเขาสดใสและอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ทั้งอาจั่วและอาโม่ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากการนอนหลับสนิทตลอดคืน
การพูดอย่างตรงไปตรงมาทำให้ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานแดงยิ่งขึ้น โชคดีที่อาจั่วหันหลังกลับและไปเตรียมเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ในภายหลัง
กู้เสี่ยวหวานตกตะลึงเมื่อนึกถึงสิ่งที่อาจั่วพูดในเมื่อครู่ ใบหน้าก็ร้อนผ่าวและมุมปากก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย
จากนั้นนางก็ยื่นมือออกไปลูบผ้านวมและสูดกลิ่นหอมจาง ๆ ที่เป็นของเขาเท่านั้นที่ยังคงอบอวลอยู่ในผ้านวม ทำให้หัวใจของนางสงบนิ่ง
เมื่อคืนทั้งสองคนนอนเตียงเดียวกัน แม้ว่าทั้งคู่จะนอนโดยมีห่มผ้านวมของตัวเอง แต่ทั้งสองคนก็อยู่ใกล้กันมาก แม้ว่านางจะหลับไปแล้ว แต่เมื่อรู้อย่างนี้ก็อดจะเขินอายไม่ได้
ถ้านางรู้เรื่องเมื่อคืนล่ะ?
กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางแค่รู้สึกว่าใบหน้าของนางร้อนขึ้น
หลังจากเตรียมตัวแต่งหน้า เมื่อน้ำอุ่นราดลงบนแก้มของนาง กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าความกังวลในใจของนางผ่อนคลายลง
ต่อหน้าอาจั่วในตอนนี้ นางพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมท่าทีที่ผิดปกติของตัวเอง แต่นางไม่รู้ว่าท่าทางและการแสดงออกของนางได้ตกอยู่ในสายตาของอาจั่ว
นายท่านอายุยี่สิบสามแล้ว หากเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ เขาคงมีภรรยาและมีลูกแล้ว ลูก ๆ ของเขาคงวิ่งไปทั่วลานบ้าน
แต่ตอนนี้นายท่านยังอยู่ตัวคนเดียว แต่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคุณหนูก็จะโตขึ้น
พวกเขาจะสามารถแต่งงานกันได้ เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อาจั่วก็รู้สึกตื่นเต้น นางจึงเคารพและหวงแหนกู้เสี่ยวหวานมากขึ้น
กู้เสี่ยวหวานคือชีวิตของนายท่าน นางและอาโม่จะปกป้องกู้เสี่ยวหวานด้วยชีวิตของพวกเขา
“ท่านพี่ ท่านพี่…” กู้เสี่ยวหวานที่กัดฮะเก๋าไปได้ครึ่งคำ ทันใดนั้น นางก็ได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นดังมาจากข้างนอก หัวใจของนางเต้นรัว ฮะเก๋าที่เหลืออีกครึ่งตกลงในน้ำแกงในชามที่อยู่ตรงหน้าและกระเด็นใส่หน้ากู้เสี่ยวหวาน
เมื่ออาจั่วเห็นสิ่งนี้ก็กุลีกุจอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนที่สะอาดออกมาเช็ดหน้าให้กู้เสี่ยวหวาน
ในอีกด้านหนึ่ง ‘ผู้ร้าย’ อย่างกู้เสี่ยวอี้ก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองทำให้ใบหน้าของพี่สาวถูกน้ำแกงกระเด็นใส่ นางไปหากู้เสี่ยวหวานพร้อมกับบางสิ่งในมือของนาง
“ท่านพี่ ท่านพี่ ท่านพี่ส่งจดหมายมา ท่านพี่ส่งจดหมายมา” กู้เสี่ยวอี้ยกของในมือขึ้นและพูดอย่างตื่นเต้น
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ นางก็หยุดเช็ดหน้า ปัดมือของอาจั่วออกไปแล้วลุกขึ้นพลางกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว กู้เสี่ยวอี้มาถึงห้องพร้อมซองจดหมายสีเหลืองในมือ
“ท่านพี่” กู้เสี่ยวอี้ยื่นจดหมายในมือให้กู้เสี่ยวหวาน นางรับมันด้วยมือที่สั่นเทาและถามอย่างตื่นเต้นว่า “หนิงอันหรือหนิงผิง?”
“เป็นท่านพี่ ท่านพี่ทั้งสอง พวกเขาเขียนจดหมายมา” กู้เสี่ยวอี้ตะโกนอย่างตื่นเต้น
ตอนเช้า หลังจากที่นางกินข้าวเช้าเสร็จและไปเดินย่อยอาหารในลานบ้าน เมื่อนางไปถึงประตูก็มีผู้ส่งสารมาส่งจดหมาย หลังจากที่โค่วไห่ได้รับจดหมายก็มอบให้กู้เสี่ยวอี้ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง
กู้เสี่ยวอี้รับมาและรีบวิ่งมาที่นี่
ไม่มีท่าทางมั่นใจอย่างปกติ แต่กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สนใจสิ่งนั้น นางตื่นเต้นจนไม่สนใจอะไรและรีบอ่านจดหมายในมือ
แน่นอน มีจดหมายสองฉบับ
หนึ่งในนั้นเขียนด้วยลายมือของหนิงอัน และอีกอันหนากว่าเขียนโดยหนิงผิง
ลายมือของหนิงอันได้รับฝึกอย่างดี ในขณะที่ลายมือของหนิงผิงค่อนข้างเละเทะ กู้เสี่ยวหวานรู้ได้ทันทีว่าเป็นลายมือที่คุ้นเคย ซึ่งสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าคือลายมือของกู้หนิงอันและกู้หนิงผิงจริง ๆ
*[1] ยามซื่อ คือ เวลา 09.00 – 11.00 น.
*[2] ยามอิ๋น คือ เวลา 03.00 – 05.00 น.
…………….