ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 371 ช่างน่าละอายต่อเผ่าพันธุ์เสียจริง!
บทที่ 371 ช่างน่าละอายต่อเผ่าพันธุ์เสียจริง!
……….
บทที่ 371 ช่างน่าละอายต่อเผ่าพันธุ์เสียจริง!
“ถามเจ้าว่า เจ้ามนุ… อะแฮ่ม! หลิงเยว่อยู่ไหน?”
หัวหน้าตะขาบมรกตบีบตัวปุโรหิตน้อยจนลูกตาแทบถลน
“หลิงเยว่คือผู้ใด?”
หัวหน้าเผ่าปลาเอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น เพียงมองเส้นผมสีเขียวของอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าคนผู้นี้คงมีเรื่องบาดหมางกับหลิงเยว่ หากบอกที่ซ่อนของนางไปมิเท่ากับทำร้ายนางหรือ?
“นางคืออาจารย์ของข้า เป็นผู้ที่สอนพวกเจ้าทำอาหารปีศาจไง!” ฮวนฮวนกะพริบตาสีทองแดงสลับกัน รอบทะเลสาบมีกลิ่นอายของอาจารย์นางเต็มไปหมด แต่กลับไม่พบตัว ช่างแปลกนัก…
บุตรสาวของเจ้าวังมีมนุษย์เป็นอาจารย์?
ปลาที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่อยากเชื่อ พวกมันจ้องเขม็งไปที่ปุโรหิตน้อยที่กำลังจะถูกบีบคอตาย พร้อมส่งสายตากันไปมา วางแผนที่จะร่วมมือกันช่วยเหลือ
ทว่าก่อนที่พวกมันจะได้ลงมือ หัวหน้าตะขาบมรกตก็โยนปุโรหิตน้อยทิ้ง ก่อนจะหันไปมองด้านหลัง เมื่อเห็นผู้มาเยือนก็มีสีหน้าบูดบึ้ง
ช่างร้ายกาจยิ่งนัก!
“เมื่อใดกันที่เจ้ามีอาจารย์”
เจ้าวังน้อย บุตรสาวของเจ้าวังปีศาจหันไปทางหัวหน้าตะขาบมรกตด้วยสายตาเหยียดหยาม ก่อนจะก้มลงถามฮวนฮวน
เพียงสายตานั้นก็เกือบทำหัวหน้าตะขาบมรกตเดือดดาล แต่เขายังคงอดกลั้นไว้ได้
“หืม? พี่หญิงเหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ด้วยหรือ?” ฮวนฮวนเอียงศีรษะ แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“อย่ามาแสร้งโง่กับข้า ตอบคำถามข้ามา!”
“พี่หญิงเพิ่งถามฮวนฮวนว่าอะไรหรือ ฮวนฮวนได้ยินไม่ชัด”
เจ้าวังน้อยผู้นี้ปกติเป็นอารมณ์ร้อน หากเป็นผู้อื่นคงถูกนางฟาดจนกระเด็นไปแล้ว แต่ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ หากนางกล้าแตะต้องแม้เพียงนิด คงต้องเป็นนางเองที่ถูกฟาดกระเด็นออกไป ดังนั้นเจ้าวังน้อยจึงถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม
ฮวนฮวนเกือบจะถูกเสียงตวาดนั้นทำวิญญาณหลุดออกจากร่าง นางจึงอาศัยจังหวะนั้นแกล้งทำเป็นสลบไป
หัวหน้าตะขาบมรกตรีบเข้าไปประคองฮวนฮวนที่สลบอยู่ในอ้อมแขน พร้อมกับจ้องมองเจ้าวังน้อยด้วยแววตาโกรธเคือง
“เจ้ารออยู่ตรงนี้เเละ ข้าจะไปบอกท่านเจ้าวังว่าเจ้าทำให้ฮวนฮวนสลบ!”
นาง… มาไม้เดิมอีกแล้วสินะ!
วันนี้ท่านพ่อของนางไม่อยู่ ข้าดูสิว่าจะมีใครปกป้องเจ้าปีศาจจิ้งจอกน้อยตัวนี้อีก!
ปลาที่พอจะมีพลังวิเศษอยู่ในที่แห่งนี้ ต่างมองออกว่าฮวนฮวน แกล้งทำเป็นสลบ แต่พวกมันไม่มีใครกล้าแม้แต่จะเอ่ยปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มพ่อค้าอาหารที่เพิ่งกลับมา พวกเขารู้ดีว่าละครฉากนี้มันถูกเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ทุกวัน
และผู้ชนะก็คือฮวนฮวนเสมอ เจ้าวังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าลำเอียง ไม่ว่าผิดถูกอย่างไร สุดท้ายนางก็ต้องโดนด่าหรือทุบตีอยู่ดี
หากเป็นคนอื่นคงจะยอมแพ้ไปนานแล้ว หรือไม่ก็แอบวางแผนร้ายอะไรสักอย่าง แต่นางไม่เป็นเช่นนั้น นางยังคงวิ่งตามหลังฮวนฮวนทุกวัน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับการถูกด่าทอและทุบตีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
นางคงสมองไม่ค่อยดีเท่าไหร่!
ไม่ใช่แค่กลุ่มขายอาหารที่คิดเช่นนั้น หัวหน้าตะขาบมรกตและฮวนฮวนก็คิดว่าสมองอีกฝ่ายน่าจะมีปัญหาเช่นกัน!
ถ้าไม่ใช่เพราะนางวิ่งตามพวกเขาทุกวัน พวกเขาคงหนีออกจากตำหนักมาที่ทะเลสาบตั้งนานแล้ว!
ตอนนี้ที่ทะเลสาบมีเพียงกลิ่นอายของหลิงเยว่ แต่ไม่เห็นตัวคน นางไปที่ไหนกัน?
หัวหน้าตะขาบมรกตเดินทางมาถึงสถานที่ที่หลิงเยว่ต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ปีศาจ ณ ที่แห่งนี้เองที่เขาได้กลิ่นอายของชิงหลงปะปนอยู่กับกลิ่นอายของคนแปลกหน้าอีกหลายคน
ในเมื่อมีชิงหลงอยู่ที่นี่ ย่อมต้องมีผู้นำเผ่าทิงมี่อยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คนอื่น ๆ เล่า…
ยิ่งสูดดมกลิ่นมากเท่าไหร่ หัวหน้าตะขาบมรกตยิ่งตระหนักถึงความจริงอันน่าหวาดหวั่น หลิงเยว่และชิงหลงถูกจับตัวไปแล้ว!
หัวหน้าตะขาบมรกตรีบแกะรอยตามกลิ่นอายของหลิงเยว่ทันที เขาตั้งใจจะแปลงร่างกลับเป็นร่างจริงเพื่อไล่ตามไป
“ช่วยข้าด้วย!”
เสียงเล็ก ๆ ของฮวนฮวนดังขึ้น นางถูกเจ้าวังน้อยอุ้มอยู่ในอ้อมแขน นางยื่นมือเล็ก ๆ ออกไปหาหัวหน้าตะขาบมรกต ด้วยท่าทางน่าสงสาร
แม้มนุษย์ผู้เปราะบางจะมีความสำคัญ แต่ฮวนฮวนก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้น หัวหน้าตะขาบมรกตจึงต่อสู้กับเจ้าสำนักน้อยอีกครั้ง
“มองอะไรกันนักหนา รีบไปเอาของสดของพวกเจ้ามา แล้วกลับเมืองหลวงกับข้า!”
คำสั่งของเจ้าวังน้อยทำเอาเหล่าปลาขายอาหารถึงกับสิ้นหวัง พวกเขามองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะหันไปเล่าเรื่องราวในเมืองหลวงให้กับผู้นำปลาฟังอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผู้นำเผ่าปลาโกรธจนแทบจะระเบิด พลางคิดในใจว่าอยากจะไล่ตะเพิดเจ้าวังน้อยออกไปจากทะเลสาบเสียจริง แต่ความจริงก็คือ… พวกนางให้อาหารพวกมันเยอะเกินไป!
ไม่ใช่แค่หินปีศาจเท่านั้น แต่นางยังมอบอาหารชั้นเลิศให้กับลูกปลาน้อยมากมาย
นั่นมันอาหารชั้นเลิศเชียวนะ! เพียงหนึ่งส่วนก็เทียบเท่ากับหญ้าหมัวอินมากกว่าหมื่นต้น!
การค้าขายนี้มันช่างคุ้มค่าเกินไปแล้ว!
แค่แล่เนื้อไปบ้าง แถมยังให้ลูกปลาไปทำงานอีกสิบกว่าตัว ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!
ผู้นำเผ่าปลาและปุโรหิตน้อยจึงรีบรวบรวมเหล่าปลาทั้งหลายมาแล่เนื้อ แม้แต่เผ่าพันธุ์อื่นก็ไม่เว้น ขอให้ร่ำรวยไปด้วยกันเถิด!
นับตั้งแต่เจ้าวังน้อยปรากฏตัวขึ้น เรื่องราวเกี่ยวกับหลิงเยว่ก็ไม่ถูกพูดถึงอีกเลย แม้แต่เหล่าปลาหมัวอินก็ดูเหมือนจะลืมเลือนเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
ฮวนฮวนที่ถูกโยนลงพื้นลุกขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว แล้วแอบย่องเข้าไปใกล้ผู้นำเผ่าปลา “อาจารย์หลิงไปที่ใดกันแน่? เจ้ากระซิบข้าหน่อยได้หรือไม่?”
ผู้นำเผ่าปลาที่กำลังเฉือนเนื้อพวกเดียวกันมือพลาดไป ทำให้เนื้อชิ้นใหญ่หลุดออกมา ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของปลานักรบ
ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กน้อยจะรู้จักหลิงเยว่จริง ๆ แม้แต่เรื่องที่นางสอนวิชาอาหารปีศาจก็รู้ อีกทั้งสีหน้าท่าทางดูจริงใจยิ่งนัก คล้ายกับมนุษย์ผู้นั้นอย่างยิ่ง…
เขาควรจะบอกหรือไม่?
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! เจ้าวังกับมังกรปีศาจเป็นพวกเดียวกัน ห้ามบอกเด็ดขาด!
ผู้นำเผ่าปลาตัดสินใจเงียบจนถึงที่สุด ไม่ว่าฮวนฮวนจะอ้อนวอนหรือแม้แต่ข่มขู่อย่างไรก็ไม่ตอบสนอง
เมื่อเห็นว่าผู้นำเผ่าปลาไม่ยอมบอก ฮวนฮวนจึงกลอกตาแล้วเดินเข้าไปหาปุโรหิตน้อย “ฝีมือการหั่นปลาของเจ้าช่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว ท่านอาจารย์หลิงเป็นคนสอนใช่หรือไม่?”
ปุโรหิตน้อยมองดูฮวนฮวนแวบหนึ่งแล้วไม่ตอบอะไร
“พวกเจ้ากลัวว่าข้าจะทำร้ายท่านอาจารย์หลิงหรือ?”
เป็นไปไม่ได้! นางไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก!
“ไม่บอกก็ได้ แต่คราวหน้าเมื่ออาจารย์หลิงปรากฏตัว เจ้าจงบอกนางว่า ฮวนฮวนถูกท่านเจ้าวังจับตัวไป ให้นางรีบมาช่วยศิษย์ที่น่ารักที่สุดของนางด้วย!”
ฮวนฮวนพร่ำบ่นไม่หยุดข้างหูปุโรหิตน้อย เล่าว่าตนเองน่าสงสารเพียงใด ถูกพ่อลูกสองคนที่สมองไม่ดีทรมานจนแทบจะเสียสติ
ปุโรหิตน้อย “…”
ดูสิ แก้มแดงระเรื่อ ดวงตาเปล่งประกาย พูดจามีเหตุผล ยังแกล้งเป็นลมแกล้งน่าสงสาร นี่เรียกว่าเสียสติหรือ?
ถ้าจะพูดถึงการเสียสติ ก็น่าจะเป็นพวกเดียวกันที่อยู่ตรงหน้า ที่ถูกเขาเฉือนเนื้อและร้องตะโกนด้วยสายตาเลื่อนลอยสิ?
สรุปแล้ว คำพูดของฮวนฮวน ปุโรหิตน้อยไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว อีกอย่าง ก่อนที่จะถูกผู้อาวุโสกระทิงพาไป หลิงเยว่ดูเหมือนจะอยู่ในสภาพหมดสติ ดังนั้นเขายิ่งไม่มีทางบอกที่อยู่ของนางให้เจ้าตัวน้อยตรงหน้ารู้แน่
เจ้าสำนักน้อยที่ต่อสู้มาหนึ่งยก หน้าตาบวมช้ำ แต่รู้สึกสดชื่นแจ่มใสยิ่งนัก!
หัวหน้าตะขาบมรกตใบหน้าเละเทะ ตามหลังเจ้าสำนักน้อยมาด้วยความโกรธเคือง เขาแพ้แล้ว เขาแพ้ให้กับหญิงที่สมองไม่ค่อยดี!
ช่างน่าอับอายยิ่งนัก!
นี่มันเป็นความอัปยศของบรรดาเผ่าพันธุ์แมลงเลยทีเดียว!
“สมบัติสืบทอดของเผ่าตะขาบมรกตสี่ปีกของพวกข้า ที่สุดแล้วมันอยู่ที่ใด อยู่ที่ใดกัน!”
“รีบออกมาเดี๋ยวนี้!”
หัวหน้าตะขาบมรกตที่สติแตกไปแล้วคำรามลั่น ก่อนจะแปลงร่างเป็นร่างจริง ร่างกายอ้วนท้วนพุ่งเข้าชนนางอย่างรุนแรง
“เมื่อครู่ไม่นับ เอาใหม่!”
มันไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้!
เจ้าวังน้อยที่ตั้งรับไม่ทันโดนเข้าไปหนึ่งที ก่อนจะทรงตัวได้ จึงหันไปพุ่งเข้าใส่บ้าง
วันนี้นางต้องจัดการไอ้หนอนอ้วนนี่ให้ยับ!
……….