ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 439 :เปลี่ยนสไตล์ให้ดีขึ้น
ตอนที่ 439 :เปลี่ยนสไตล์ให้ดีขึ้น
เวลา 2 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้เป็นเวลาที่ลู่จือเจี้ยนจะมาถึงชิงโจว เจียงเสี่ยวไป๋ขอให้เฉินซินจองห้องพักสามห้องที่ชิงเจียง เกสต์เฮาส์ในตอนเช้า
ประมาณสี่โมงเย็น เขาก็ไปที่สถานีผู้โดยสารเพื่อรอรับคน
เขามาพร้อมกับจวงปี้เฉิง
ตอนนี้ จวงปี้เฉิงได้กลายเป็นหนึ่งในมือขวาของเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว ทีมงานก่อสร้างของเขาถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วนโดยเจียงเสี่ยวไป๋ ส่งผลให้มีการก่อตั้งบริษัทอี้เคอพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทว่านอัน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บริษัทตกแต่งภายในเชียนเหม่ย และบริษัทไป่ซิ่นพร็อพเพอร์ตี้เซอร์วิส
ซึ่งผู้ควบคุมที่แท้จริงของทั้งสี่บริษัทนี้คือหลินเจียอิน เธอเป็นผู้ถือหุ้น 70%
จวงปี้เฉิงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทอี้เคอพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยถือหุ้น 30 % หลี่เฉิงหรูได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทว่านอัน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เฉินอี้เฟยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทตกแต่งภายในเชียนเหม่ย และจางกุ้ยหลานได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทไป่ซิ่นพร็อพเพอร์ตี้เซอร์วิส
หลี่เฉิงหรู เฉินอี้เฟย และจางกุ้ยหลันต่างก็เคยเป็นมือขวาของจวงปี้เฉิงมาก่อน พวกเขาแต่ละคนเป็นผู้ถือหุ้น 10% ในบริษัทที่ตนรับตำแหน่งอยู่ และอีก 20% เป็นของจวงปี้เฉิง
การแบ่งทีมก่อสร้างหนึ่งทีมเป็นสี่บริษัทก็เหมือนกับการเปลี่ยนจากกองโจรมาเป็นกองทัพปกติ ปัจจุบันแต่ละบริษัทมีทิศทางการพัฒนาธุรกิจที่ชัดเจนเป็นของตนเอง
หนึ่งในนั้นคือบริษัทไป่ซิ่นพร็อพเพอร์ตี้เซอร์วิส พวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับประโยชน์
เจียงเสี่ยวไป๋ได้มอบความไว้วางใจให้กับบริษัทไป่ซิ่นพร็อพเพอร์ตี้เซอร์วิสเข้ามาดูแลด้านการรักษาความปลอดภัย สุขอนามัย และการจัดสวนของภาคอุตสาหกรรมบางส่วนของเขา เช่น โรงงานฟิล์มพลาสติก โรงงานผลิตเครื่องปรุงรส และโรงงานผลิตและแปรรูปถั่วเหลือง
เมื่อนึกถึงการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จวงปี้เฉิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่งกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
เขาเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “พี่เจียง ผมมาทำงานกับพี่แล้ว แล้วทางด้านลุงถานล่ะ ? เขาถามผมหลายครั้งแล้ว”
ลุงถานที่เขาพูดถึงก็คือช่างไม้ถาน
ในเวลานั้น ทั้งสองคนได้แสดงความตั้งใจที่จะร่วมงานกับเจียงเสี่ยวไป๋ ตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ได้รวมทีมงานก่อสร้างของจวงปี้เฉิงแล้ว แต่ยังไม่ได้ตอบรับช่างไม้ถาน
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแล้วพูดว่า “ฉันจะคุยกับเขาในอีกสองสามวัน”
จวงปี้เฉิงพยักหน้า เขารู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ป และต้อนรับลู่จือเจี้ยนกับคนอื่นที่เดินทางมาจากเจียงเฉิง เขาจึงกล่าวต่ออีกว่า “เมื่อคุณลู่และทีมงานมาถึง หลังจากที่พี่อธิบายข้อกำหนดในการวางแผนให้พวกเขาทราบแล้ว พี่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสำรวจสถานที่และทำรังวัด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “อืม คุณสามารถใช้โอกาสนี้เรียนรู้จากพวกเขาได้เช่นกัน”
จวงปี้เฉิงพยักหน้ารับ “แน่นอน แต่ถ้าพี่สร้างสถาบันการออกแบบของพี่เอง ในอนาคตเราก็สามารถจัดการโครงการต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือปัด “ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้ ไว้ค่อยคุยกันหลังจากที่เราทำโครงการเสร็จแล้วสักสองสามโครงการเถอะ ! ”
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน รถบัสโดยสารจากเมืองเจียงเฉิงก็มาถึงในที่สุด
ไม่นานหลังจากนั้น ลู่จือเจี้ยนก็พาชายหญิงคู่หนึ่งก็ลงจากรถบัส
เจียงเสี่ยวไป๋และจวงปี้เฉิงเข้าไปทักทายพวกเขา
“ยินดีต้อนรับคุณลู่และทีมงานสู่ชิงโจว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋จับมือกับลู่จือเจี้ยน จากนั้นชี้ไปที่จวงปี้เฉิงและแนะนำ “นี่คือคุณจวงปี้เฉิง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทอี้เคอพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้”
จวงปี้เฉิงยังจับมือทักทายกับลู่จือเจี้ยนและพูดว่า “สวัสดีครับคุณลู่ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณต้องลำบากเดินทางมาไกลเลย”
ลู่จือเจี้ยนพูดอย่างสุภาพว่า “ผู้จัดการจวงไม่จำเป็นต้องมากพิธีขนาดนั้น ในฐานะคู่ค้า เรายินดีให้บริการครับ”
ขณะที่เขาพูด เขาเริ่มแนะนำชายและหญิงที่ยืนอยู่ข้างเขาให้เจียงเสี่ยวไป๋และจวงปี้เฉิงได้รู้จัก
ผู้ชายชื่อผางต้าไห่ ผู้หญิงชื่อโม่เสี่ยวฉี ทั้งคู่อายุยังไม่ถึงวัย 30 ปี พวกเขาเป็นผู้ช่วยมากความสามารถของลู่จือเจี้ยน
หลังจากพูดคุยทักทายกันแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็พาลู่จือเจี้ยนและทีมของเขาไปที่ชิงเจียงเกสต์เฮาส์ จากนั้นจึงพาพวกเขาไปที่ร้านอาหารกุ้งอบน้ำมันบนถนนชิงโจวเพื่อทานอาหารเย็นร่วมกัน
ระหว่างทานอาหารเย็น พวกเขาพูดคุยกันสั้น ๆ เกี่ยวกับโครงการนี้ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก
หลังอาหารเย็น เจียงเสี่ยวไป๋บอกให้ลู่จือเจี้ยนและทีมงานพักผ่อนสักคืน ในขณะที่เขากลับบ้าน
การทุ่มเทกับงานจนดึกดื่นโดยไม่กลับบ้านกลับช่องไม่ใช่สไตล์ของเขา
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ในห้องประชุมเล็ก ๆ ที่ชิงเจียงเกสต์เฮาส์ ตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ จวงปี้เฉิง ลู่จือเจี้ยน ผางต้าไห่ และโม่เสี่ยวฉีได้จัดประชุมโครงการที่นั่น ในที่สุด เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้นำเสนอภาพร่างแปลนการออกแบบของเขาให้ลู่จือเจี้ยนดู
“นี่……”
หลังจากเห็นแบบแปลนแล้ว ลู่จือเจี้ยนก็อ้าปากค้างและพูดไม่ออก
เมื่อโม่เสี่ยวฉีเห็น เธอก็ไปดูแบบแปลนด้วยความประหลาดใจและพูดไม่ออกเช่นกัน
“เถ้าแก่เจียง นี่คือ…ตึกสูง 33 ชั้นเหรอ ? ”
แม้จะได้เห็นแบบแปลนแล้ว ลู่จือเจี้ยนก็ยังไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ไม่ผิด อาคารพาณิชย์นี้เป็นอาคารสูง 33 ชั้น ในขณะที่อาคารที่พักอาศัยเป็นอาคารสูง 24 ชั้นและตัวอาคารที่ถนนย่านการค้าเป็นตึกสูง 3 ชั้น”
ลู่จือเจี้ยนสูดลมหายใจเข้า แล้วพูดว่า “เถ้าแก่เจียง อาคารที่สูงที่สุดที่ผมเคยสร้างเป็นอาคารสูงแค่ 5 ชั้นเท่านั้น คุณออกแบบจำนวนชั้นสูงเกินไป และสถาบันการออกแบบของเรายังขาดประสบการณ์ในโครงการนี้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ในปี 1968 กว่างโจวได้สร้างโรงแรมกว่างโจวที่มีความสูง 27 ชั้น และในปี 1976 พวกเขาได้สร้างโรงแรมไป่หยุนที่มี 34 ชั้น เมื่อปีที่แล้ว โรงแรมจินหลิงก็สร้างเสร็จโดยมีความสูง 110 เมตรและมีทั้งหมด 37 ชั้น”
“ขนาดตึกสูง 37 ชั้นยังมี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ผมจะสร้างตึกสูง 24 ชั้นและ 33 ชั้น”
ลู่จือเจี้ยนยิ้มเจื่อนและพูดว่า “เถ้าแก่เจียง ผมรู้จักสถานที่เหล่านี้และผมก็เคยไปที่นั่นด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม การออกแบบอาคารสูงแบบนี้ต้องการการสนับสนุนข้อมูลจำนวนมาก และผม….”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือแล้วพูดว่า “คุณหลู่ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมได้รับข้อมูลการออกแบบโรงแรมจินหลิงผ่านเพื่อนคนหนึ่งมา และผมได้จัดทำเอกสารข้อกำหนดโดยละเอียดพร้อมมาตรฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว คุณวางใจได้”
ฮะ !
ลู่จือเจี้ยนรู้สึกประหลาดใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสิ่งเหล่านั้นคือตัวแปรสำหรับการออกแบบตึกสูงระฟ้าที่มีมากกว่า 30 ชั้น
หากพวกเขาต้องศึกษาด้วยตัวเอง อาจต้องใช้เวลาหลายปีหรือสิบปีกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการนี้
ทว่าตอนนี้มีโครงการให้พวกเขาได้ฝึกฝน
แน่นอนว่าตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว ด้วยข้อมูลที่พร้อมสำหรับการอ้างอิง การทำโครงการนี้ให้เสร็จสิ้นจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการออกแบบสถาบันออกแบบสถาปัตยกรรมมณฑลจีนตอนกลางสาขา 3 ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังจะกลายเป็นสถาบันการออกแบบเพียงแห่งเดียวในมณฑลจีนตอนกลางที่มีประสบการณ์ในการออกแบบตึกระฟ้าที่มีความสูงมากกว่า 30 ชั้น ยกระดับชื่อเสียงและอิทธิพลให้สูงขึ้นอย่างล้นหลาม
“อย่างไรก็ตาม เราต้องมีส่วนร่วมในโครงการนี้ ! ”
ลู่จือเจี้ยนได้ตัดสินใจแล้วที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้ แม้ว่าเขาจะไม่รับเงินของเจียงเสี่ยวไป๋เหมือนครั้งที่แล้วก็ตาม
ด้วยความสามารถในการออกแบบที่เหนือกว่าคู่แข่ง พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลกับโอกาสทางธุรกิจในอนาคตแล้วน่ะสิ ?
“เถ้าแก่เจียง ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ! ”
ลู่จือเจี้ยนกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “คราวนี้เราจะประจำการอยู่ที่ชิงโจวและทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเรียนรู้จากเถ้าแก่เจียงและร่วมงานกันไปด้วย”
ผางต้าไห่และโม่เสี่ยวฉีต่างก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าการเดินทางไปทำธุรกิจที่ชิงโจวจะเป็นงานที่ยาก แต่พวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ค้นพบรสชาติที่อร่อยของปูผัดเซียงล่าและปูขนนึ่งของชิงโจว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้มาเจอกับโครงการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อีกด้วย
การมาที่ชิงโจวครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
เจียงเสี่ยวไป๋พอใจกับการตอบรับของลู่จือเจี้ยนมาก เขาพูดว่า “คุณลู่สุภาพเกินไปแล้ว เรามาทำโครงการนี้ให้สำเร็จไปด้วยกัน และผมยังต้องอาศัยทีมของคุณในอนาคต ! ”
“แน่นอน ! แน่นอน ! ” ลู่จือเจี้ยนพูดซ้ำ ๆ